ชุมชนในหุบเขาใต้ร่มเงาของป่าเมี่ยง “โฮมสเตย์บ้านเหล่า”
ม่านหมอกสีขาวค่อยคลี่คลายเผยภาพหมู่บ้าน ชุมชนที่โอบล้อมด้วยผืนป่าไม้ใหญ่ เสียงไก่ขันดังก้องกังวานขานรับกันเป็นช่วงๆ แสงสีทองฉายแสงปลุกที่ทุกชีวิตให้ตื่นขึ้น
บ้านเหล่าพัฒนา ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ชุมชนบ้านเหล่าที่ตั้งอยู่ในหุบเขากระจายอยู่รอบป่าใหญ่พื้นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ในลุ่มน้ำปิงตอนบนบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง มีวิถีชีวิตเกี่ยวกับการทำเมี่ยง
เริ่มแรก”บ้านเหล่า”ในสมัยก่อนเรียกว่าเป็นป่าดงดิบเป็นเหล่า จนคำเรียกว่า “เหล่า” เป็นชื่อเรียกหมู่บ้าน ต่อมามีคนมาบุกเบิกเพียวถาง ทำสวนเมี่ยงนานกว่า 100 ปี สืบทอดกันมาจนชั่วลูกชั่วหลายทุกวันนี้
เช้านี้เราไปเรียนรู้การ “ทำเมี่ยง” สวนเมี่ยงกระจายอยู่ทั่วไปตามสันเขา ต้นเมี่ยงจะผสมผสานใต้ร่มเงามไม้ยืนต้นใหญ่ “เมี่ยง” เป็นอาหารที่มีวิถีการกินเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คำว่าเมี่ยง มีความหมายว่า “ต้นชา, ของกินที่ใช้ใบไม้ห่อกิน เมี่ยง เพียงคำเดียวโดดๆ ก็จะหมายถึงอาหารชนิดหนึ่งของทางภาคเหนือ ทำมาจากต้นชาหรือต้นเมี่ยงตามภาษาถิ่น
เราเริ่มการทำเมี่ยง โดยการเก็บใบเมี่ยง จะเก็บใบเมี่ยงที่ ใบ 1-3 แล้วนำมามัดรวมกันเป็นกำ จะสังเกตเห็นว่าต้นเมี่ยงจะไม่สูงนักเพราะจะถูกเก็บใบตลอดทั้งปี พอได้ใบเมี่ยงแล้วนำมานึ่งแล้วหมักสามารถเก็บไว้ได้เป็นปีๆ ที่มีคุณลุงที่ทำเมี่ยงมาแต่เด็กๆจนปัจจุบันอายุ 70 กว่าแล้ว กำลังจัดกำเมี่ยงลงในลูกหนึ่งรวมเมี่ยง 200 กำ เพื่อจัดส่งให้ลูกค้า
แล้วมาเที่ยวชมแปลงสาธิตการปลูก “ซีมบิเดี้ยม” ของโครงการหลวงม่อนเงาะถือว่าเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีสีสันมากมายถึง 6 สี ช่อที่ใหญ่สมบูรณ์จะมีดอกมากถึง 12 ดอก แล้วแวะหมู่บ้านม้งที่ม่อนเงาะชมการทำเครื่องเป่าแคนม้งหลากหลายแบบ จากลุง…..เล่าว่าใช้เป่าจีบสาวๆในแต่ครั้งวัยหนุ่มๆ
มาชมพระอาทิตย์ตกกันที่จุดชมวิวที่สูง 1,425 เมตรจากระดับน้ำทะเลที่เรียกว่า “ม่อนเงาะ” คำว่า ม่อนเงาะ นั้นได้เพี้ยนมาจากคำว่า “โม่งโง๊ะ” ที่ในภาษาม้งเรียกว่าหมายความว่า “แม่” เป็นลักษณะหินผาที่ยื่นออกไปในอากาศเรียงเคียงคู่กัน 3 ผา ผาแรกคือ ผาลูก ผากลางที่ใหญ่เด่นกว่าคือ ผาแม่ ถัดมาคือ ผาพ่อ ที่ผาแม่จะมีจุดเด่นคือ “เงือกผา”ให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหาเป็นลักษณะหินงอก ที่มีรูปทรงคล้ายๆนางเงือกขาวเกาะอยู่ที่หน้าผา ช่วงหางจะกร่อนหายไปนิด
แล้วตะวันค่อยๆลาลับเหลี่ยมเขาเป็นภาพที่งดงามมาก แล้วย้อนกลับเข้าหมู่บ้านร่วมรับประทานขันโตกชมการแสดงของเด็กๆเยาวชนบ้านเหล่า และบ้านม่อนเงาะ ค่ำนี้มีเมนูเด็ดเป็น “ยำน้ำเมี่ยง” ที่ใช้นำจากการหมักเมี่ยงเคี่ยวจนข้นเป็นก้อนนำมาทำเมนูยำกับข้าวคั่วขิงซอยทานกับผักสดได้รสอร่อยที่เดียว
เจ้าของบ้านทั้ง 9 หลัง พานักท่องเที่ยวเข้าที่พัก คืนนี้หลับใต้ผ้าห่มอุ่นๆ ปะน้ำราตรีสวัสดิ์
ท่ามกลางความเงียบสงัดมีเสียงไก่ขันที่ดังก้องหุบเขา สัญญาลักษณ์ของวันใหม่ได้เริ่มต้นอีกครั้ง เราจัดแจงของใส่บาตรพระแต่เช้า เพื่อรอพระสงฆ์ที่วัดมารับบิณฑบาตร พอตักบาตรเสร็จร่วมรับประทานอาหารอาหารเช้าพร้อมตะลุยกันต่อ
โปรแกรมเช้าวันนี้มาท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่โครงการหลวงม่อนเงาะ มาชม “การปลูกฟักทองเข้าแถว” เป็นฟักทองญี่ปุ่นที่ปลูกเรียงกันเป็นแถวยาวเรียงเป็นขั้นบันไดทั่วบนดอย จากนั้นมาชม “ไร่ชาลุงเดช”ที่ปลูกชาขั้นบันไดลดหลั่นไปตามเชิงเขา พอได้ลิ้มรสชาร้อนของ อูหลง เบอร์ 12 น้ำสีทองที่หอมละมุ่น ร่วมรับประทานข้าวห่อใบตองที่ระเบียงวิวสวยๆที่ไร่ชา
โปรแกรมสุดท้ายพร้อมกับความตื่นเต้นกับการล่องแพแม่น้ำแตง ที่ลองได้ทั้งแพไม้ไผ่ และแพยาง ที่มีเกาะแก่งที่จะเรียกเสียงกริ๊ดก๊าดได้ตลอดสายน้ำ
ช่วงเวลาของความสุขได้สิ้นสุดลง แต่ทว่าความประทับใจของเราจะยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
โฮมสเตย์บ้านเหล่า
การเดินทาง/ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง)ก่อนถึงตลาดแม่มาลัย ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายถนนเลี่ยงเมืองตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 แม่มาลัย-ปาย ประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบวัดสบเปิง แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนหลวงชนบททางแยกขวามือ เส้นทาง สบเปิง-เมืองก๋าย-บ้านเหล่า ระยะทาง 7 กิโลเมตร
ติดต่อ/โฮมสเตย์บ้านเหล่า /คุณสมศรี สุทาชัย โทร.086-193784/คุณพิจิตตา เพชรพลอยศรี โทร.087-1836415 โครงการหลวงม่อนเงาะ โทร. 053-318-308
Text & Photograph :Tabtim Manmak
ร่วมแสดงความคิดเห็น