หญิงใบ้ยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยตามหาแม่ที่พลัดพรากกันมานาน 15 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ยอมลาออกจากงานประจำ ขี่รถจักรยานยนต์ จากจังหวัดเชียงใหม่ ไปที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามหาแม่เพื่อจะกราบแม่ในวันแม่ หลังทราบข่าวว่าแม่ไปอาศัยอยู่ที่นั่นแต่ก็มาพบ ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลประกันสังคมพบว่า 9 เดือนที่ผ่านมาแม่ของหญิงใบ้ทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้เตรียมประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ หาเบาะแสของแม่หญิงใบ้จากญาติอีกทางหนึ่ง
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ศูนย์ดำรงธรรม ภายในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางพิจิตรา อานุ ชื่อเล่นน้องมด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 9 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หญิงพิการเป็นใบ้ เดินทางมากับล่ามภาษามือ พร้อมกับเอกสารข้อมูล และรูปถ่ายของนางเดรี่ คำไสย อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ ให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ช่วยติดตามหาแม่ที่พลัดพรากกันมานาน 15 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ รับเรื่องพร้อมกับสอบถามรายละเอียดแม่น้องมด ผ่านล่ามภาษามือ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำข้อมูลทั้งหมดไปสืบหาในฐานข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ทราบการเคลื่อนไหวล่าสุดแม่น้องมดเคยทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสมุทรปราการและได้ลาออกจากงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา
ด้านนายปิติพงษ์ ติ๊บถา นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ทราบที่อยู่ที่เป็นบ้านเกิดและที่ทำงานครั้งสุดท้ายของนางเดรี่ คำไสย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการติดตามตัวแม่ของน้องมด แบ่งเป็นสองแนวทาง โดยจะติดตามสอบถามข้อมูลจากญาติของนางเดรี่ ซึ่งทราบว่าบ้านเกิดเป็นคนตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อหาคนที่สามารถติดต่อกับนางเดรี่ ได้ ส่วนแนวทางที่สองเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังที่ทำงานเดิมของนางเดรี่ ที่จังหวัดสมุทรปราการเพื่อหาทางติดต่อกับกับแม่ของน้องมดอีกทางหนึ่ง
ด้านนางพิจิตรา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามภาษามือว่า ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงไม่เคยเห็นพ่อจริงๆต่อมาแม่ได้ส่งไปเรียนที่โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนคนหูหนวกและเป็นโรงเรียนกินนอน เรียนจนถึงชั้น ป.6 แม่ก็ไม่มาหาอีกเลย พอช่วงปิดเทอมก็กลับไปอยู่บ้านของพ่อเลี้ยง ที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จนเรียนถึงชั้น ม.5 ก็ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น จนมามีครอบครัวและทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน และเช่าบ้านอยู่กับสามี โดยช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ตัดสินใจลากออกจากงานประจำ และขี่มอเตอร์ไซค์ตามหาจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามหาแม่ถึง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมกับสามี หลังจากทราบว่าแม่ได้มาอาศัยอยู่ที่อำเภอปาย หวังที่จะกราบแม่ ในช่วงวันแม่ แต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากตอนนี้ตนมีลูกสาว 1 คนอายุ 3 ขวบเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ว่ารักลูกมากแค่ไหน ตนจึงอยากจะแสดงความกตัญญูและความรักกับแม่ ไม่ได้หวังที่จะให้แม่ดูแล จึงได้เดินทางขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามหาแม่ของตนและหวังว่าจะมีโอกาสเจอแม่อีกสักครั้ง
ร่วมแสดงความคิดเห็น