ออกแพคเกจ หนุนท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่น

กระทรวงการคลัง เดินหน้าออกแพคเกจหนุนท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจหลังเกิดเหตุระเบิด เล็งทำประกันความเสี่ยงให้ต่างชาติ

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.และ กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาอยู่ระหว่างการศึกษามาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา แม้จะประเมินว่า ไม่กระทบการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม แต่เพื่อสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น จึงได้เตรียมมาตรการไว้รองรับ ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการหารือ

ทั้งนี้ มาตรการจะประกอบด้วย การทำประกันความเสี่ยงให้แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เร่งรัดส่วนราชการทุกแห่งจัดสรรงบประมาณในปี 2560 เพื่ออบรมสัมมนาในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ หรือ ภายในสิ้นปีนี้ และ ให้ขอกันงบเหลือจ่ายของปีงบประมาณ 2559 ไปใช้ในการอบรมสัมมนาแทนที่จะส่งคืนคลัง และแผนจะเสนอให้เพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทต่อคนต่อปี

สำหรับมาตรการการทำประกันความเสี่ยงให้แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมา สศค.ได้หารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอขอใช้งบเพิ่มเติมจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งงบดังกล่าวจะอยู่ในส่วนของการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังไม่ขัดข้อง แต่ขอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาใช้งบจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวของตัวเองเสียก่อน แต่หากไม่เพียงพอก็สามารถขอจากหน่วยงานดังกล่าวได้ ซึ่งจะต้องหารือกับกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณาช่องทางที่จะให้กระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องส่งงบส่วนที่จะขอมายังคลังหลวง นอกจากนี้ สศค.ยังเสนอให้ใช้งบกลางเพื่อทำประกันความเสี่ยงแก่นักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย

“เรื่องประกันความเสี่ยงนักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่เราหารือกับกระทรวงท่องเที่ยวฯมาตลอด แค่มีเงิน เราไม่ขัดจ้อง เราเสนอให้เขาใช้เงินกองทุนของเขาทำได้เลย แต่เขาจะขอเงินบางส่วนจากหน่วยตราจคนเข้าเมือง ที่เก็บจากนักท่องเที่ยว เราก็บอกไม่ขัดข้อง แต่ต้องคุยกับกรมบัญชีกลางก่อน จริงๆแล้ว สามารถของบกลางก็ได้ ไม่มีปัญหา”นายกฤษฎากล่าว

อย่างไรก็ดี สำนัักงานเศรษฐกิจการคลัง เสนอว่า ให้ทำเป็นแพคเกจไทยเที่ยวไทยดีกว่าหรือไม่ โดยสนับสนุนทางด้านภาษีภาษีเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งก็เห็นว่า มีความเหมาะสม โดยอาจจะเพิ่มวงเงินในการลดหย่อนให้ แต่ยังอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

ขณะที่นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวก่อนหน้านี้ แผนการทำประกันภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยยังไม่มีความคืบหน้า โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯขอเวลาไปหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อจัดหางบประมาณมาจ่ายเบี้ยประกันให้ได้ปีละ 180 ล้านบาท ตามที่สมาคมฯ ตกลงกับภาครัฐ เพื่อให้ความคุ้มครองแก่นักท่องเที่ยวตามเงื่อนไขที่กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำหนดไว้ เช่น ความสูญเสียจากการก่อการร้าย การเกิดอุบัติเหตุ จากชุมนุมทางการเมือง เป็นต้น

ส่วนแนวคิดนำประกันภัยมารวมกับประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะมีการซื้อความคุ้มครองแบบไหน และคิดค่าเบี้ยประกันเท่าไร เนื่องจากหากมีเรื่องประกันสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จะมีรายละเอียดมาก เช่น เรื่องอายุ ประวัติความเจ็บป่วย และมีค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง ตัวอย่าง ปกติการซื้อประกันภัยท่องเที่ยวต่างประเทศตกคนละ 1,000 บาทต่อทริป หากนักท่องเที่ยวมาไทยปีละ 30 ล้านคนก็จะสูงถึง 30,000 ล้านบาททีเดียว

ดังนั้น แนวทางการทำประกันภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่กำลังหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ น่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสม เพราะไม่เป็นภาระงบประมาณต่อภาครัฐมากเกินไป เพียงปีละ 180 ล้านบาท คิดเป็นค่าเบี้ยประกันเพียงคนละ 6 บาท คุ้มครองนักท่องเที่ยวได้ถึง 30 ล้านคน และที่สำคัญยังเป็นไปตามความคุ้มครองในเงื่อนของกองทุนช่วยเหลือเยียวยาอีกด้วย