สกู๊ปหน้า 1… เซ่นเหตุลักทรัพย์ ปรับหนัก บ.ทัวร์ฉาว

1111

ขนส่งแพร่ สั่งปรับพนักงานและบริษัทรถทัวร์แพร่ – กรุงเทพฯ หลังจอดรับผู้โดยสารกลางทางแล้วเกิดเหตุลักทรัพย์
สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ สั่งปรับบริษัทรถทัวร์และพนักงานขับรถสายแพร่ – กรุงเทพฯ ในอัตราขั้นสูงสุด หลังพบว่ามีความบกพร่องจอดรับผู้โดยสารกลางทาง และเกิดปล้นทรัพย์เป็นกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ค

ตามที่ได้มีผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค เตือนภัยรถทัวร์ สายแพร่-กรุงเทพ รับผู้โดยสารที่ไม่ซื้อตั๋วรถระหว่างทาง แล้วผู้โดยสารเป็นโจรปล้นทรัพย์สินของผู้โดยสาร โดยรับขึ้นจากแยก จ.อ่างทอง แล้วลงรถที่หน้าห้างโลตัส จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาตี 3 วันที่ 31 สิงหาคม 2559 นั้น

นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ ได้เชิญกรรมการผู้จัดการบริษัทพรพิริยะทัวร์ จำกัด พร้อมทั้งนายสมศาสตร์ จิตตะวงค์ พนักงานขับรถ และนายนิคม ปัญญาสัมพันธ์ พนักงานประจำรถคันดังกล่าว มาให้ข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ได้ความว่า นายสมศาสตร์ ได้ขับรถโดยสารหมายเลขทะเบียน 10 – 1536 แพร่ สาย 923 – 5 (แพร่ – กรุงเทพ) นำผู้โดยสารเดินทางจากจังหวัดแพร่ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร มาถึงบริเวณแยกอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง มีผู้โดยสาร จำนวน 2คน เป็นชายต้องการที่จะลงรถบริเวณดังกล่าวจึงได้จอดให้ลง ขณะเดียวกันมีชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีฟ้า แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบขออาศัยรถไปลงที่กองปราบ แต่นายสมศาสตร์ ตอบไปว่าไม่ผ่านกองปราบ ชายคนดังกล่าวจึงขอลงที่รังสิตแทน นายสมศาสตร์ จึงยินยอมให้โดยสารร่วมไปกับผู้โดยสารที่อยู่ในรถ

KONICA MINOLTA DIGITAL CAMERA

ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ชายคนดังกล่าวเดินมาแจ้งความประสงค์ต่อพนักงานขับรถจะขอลงแยกอยุธยา เนื่องจากท่านรองตำรวจขับรถตามมา จึงได้หยุดรถให้ตามความประสงค์ และชายคนดังกล่าวได้ลงจากรถไป ขณะที่กำลังขับรถออกไปมีผู้โดยสารแจ้งว่าถูกลักทรัพย์ พนักงานขับรถจึงได้หยุดรถ เปิดไฟและได้ให้ผู้โดยสารทั้งหมดตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองก่อนจะขับรถพาผู้โดยสารทั้งหมดไปแจ้งความที่ป้อมตำรวจทางหลวงอยุธยา หลังจากนั้นจึงนำผู้โดยสารที่เหลือเดินทางต่อไปจนถึงปลายทาง

สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ ได้พิจารณาดำเนินการเปรียบเทียบปรับพนักงานขับรถ ฐานไม่ดูแลผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการโดยสาร ปล่อยให้มีการขึ้นและลงนอกจุดจอดตามเงื่อนไขที่กำหนดในอัตราสูงสุด 5,000 บาท และเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดเกี่ยวกับที่ที่รถจะต้องหยุดในระหว่างเส้นทาง เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชาญยุทธ คูณเจริญสุข ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ มาร่วมสอบปากคำ และประสานงานกับตำรวจภูธรอ่างทองรวมถึงผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในทางคดีต่อไปสำหรับผู้โดยสารหรือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้รถโดยสารสาธารณะ สามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ โทรศัพท์ 054 – 652 575 หรือสายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น