ตร.ท่องเที่ยวเข้าทำการตรวจสอบวัดดัง เปิดกิจการเข้าข่ายบริการโรงแรม ขณะที่ทางผู้เกี่ยวข้องทางวัดหายเงียบ

S__3719189

จากกรณีที่มีกระแสโซเชียลดราม่าและวิพากษ์วิจารณ์วัดดัง ที่ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ มีการเปิดให้เช่าห้องพักและบริการที่เข้าข่ายเป็นโรงแรม อีกทั้งมีการก่อสร้างอาคารสูงติดกับหอไตรอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ตามที่ได้เป็นข่าวปรากฎในหลายสื่อ และทราบในเวลาต่อมาคือ วัดอู่ทรายคำ ตั้งอยู่ที่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และที่ช่วงบ่ายวานนี้ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าดำเนินการตรวจสอบร่วมกับทาง นักวิชาการศาสนาสำนักงานพุทธศาสนาเชียงใหม่ โดยมี นายจักขุบาล ธนัญชัย ที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำ เป็นผู้นำเข้าดำเนินการตรวจสอบ อีกทั้งได้มีการยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ได้มีการเปิดให้บริการเป็นห้องพักคล้ายโรงแรมแต่อย่างใด และยังระบุด้วยว่าเป็นเพียงห้องพักที่เปิดให้บริการแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาจากต่างถิ่น เพื่อมาติดต่อทำธุระที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งยืนยันอีกว่าไม่เคยมีการอนุญาตให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวและผู้หญิงเข้าพักภายในสถานที่ดังกล่าวอย่างแน่นอน ตามที่ทางผู้สื่อข่าวได้นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น S__3719188
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 6 ก.ย.59 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนำทีมโดย ร.ต.ท.วินัย ก้อนสมบัติ รอง สว.ส.ทท.1 กก.4 บก.ทท. พร้อมกับชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ และคณะผู้สื่อข่าวได้ร่วมกันเข้าดำเนินการตรวจสอบที่วัดดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าวัดดังกล่าวได้มีการดำเนินการที่ถูกต้องและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่จริง ตามที่ได้มีข้อมูลระบุในโลกโซเชียล และกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับวัดดังกล่าว โดยในการตรวจสอบครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ได้มีการขอเข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 1 ของอาคาร พบว่าเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของ และการใช้พื้นที่นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับโรงแรม เช่น มีล็อบบี้สำหรับติดต่อห้องพัก มีมุมสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมุมสำหรับเก็บผ้าปูที่นอนรวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง และมุมสำหรับรับแขกที่ทำมาจากไม้ทั้งหมด

S__3719183
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบลิ้นชักล๊อบบี้ ปรากฏว่า พบเอกสารลักษณะคล้ายการลงทะเบียนเข้าพักยังอาคารดังกล่าว เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นที่รับรองแขกและสันทนาการอื่นๆ ส่วนชั้น 2 และ 3 เป็นการจัดสันปันส่วนไว้เพื่อห้องพักทั้งหมด 11 ห้อง นอกจากนี้ยังพบ ป้าย THAILAND TOURISM STRANDRAD 2010-2012 ความว่า “Public restroom stand for tourism (international level) WAT OU SAI KHAM หรือ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ปี 2010-2012 ห้องพักสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวระดับสากล วัดอู่ทรายคำ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้มีการแสดงไว้บริเวณด้านหน้าล็อบบี้อีกด้วย

ขณะเดียวกันช่วงที่ทางเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเข้าทำการตรวจสอบ และสังเกตุการณ์อยู่นั้น ได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กวัด ซึ่งอาศัยอยู่ภายในวัดอู่ทรายคำจำนวน 3-4 คน มายืนเฝ้าอยู่ห่างๆ พร้อมทั้งมีการหยิบกล้องวิดีโอและโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้ตลอดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปยังจุดที่เป็นส่วนจัดเก็บอุปกรณ์และผ้าปูเตียงสำหรับห้องพักนั้น ปรากฏว่าพบผ้าพาดเตียงสีแดงลายทองคำล้านนา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่ปรากฏบนเพจของเฟซบุ๊ค “วัดอู่ทรายคำ” และเมื่อลองสอบถามผู้ที่ดูแลทราบว่า ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องผ้าพาดเตียงผืนดังกล่าว

นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถให้ข้อมูล หรือชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงกับทางเจ้าหน้าที่ได้ โดยบอกแต่เพียงผู้รับผิดชอบไม่อยู่ แล้วตนก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเป็นเพียงคนดูแลความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งเมื่อสอบถามถึง นายจักขุบาล ธนัญชัย ที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำ และเจ้าอาวาสของวัด ก็ทราบเพียงว่า นายจักขุบาล ซึ่งแสดงตัวเป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้นำผู้สื่อข่าวเข้าร่วมทำการตรวจสอบก่อนหน้านี้นั้น ได้ไปธุระและไม่ทราบว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ ส่วนทางเจ้าอาวาสนั้นก็เดินทางไปต่างจังหวัดและยังไม่กลับมา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวไม่สามารถตรวจสอบเชิงลึกได้ และได้ยกเลิกการตรวจสอบก่อนจะเดินทางกลับในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามทางผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ร.ต.ท.วินัย ก้อนสมบัติ รอง สว.ส.ทท.1 กก.4 บก.ทท. ถึงการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เบื้องต้นทราบว่า สำหรับกรณีดังกล่าวต้องนำเรียนให้กับผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ และต้องขอใบเข้าตรวจค้นจากศาลเป็นลายอักษรเสียก่อน การที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบเลยถือว่าเข้าข่ายบุกรุก จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องพาเข้าไปตรวจสอบ แต่จากการดูลาดราวและเอกสารบางชิ้นซึ่งถูกค้นพบบริเวณลิ้นชักของล็อบบี้นั้น คาดว่าจะเป็นเอกสารการลงทะเบียนของผู้เข้าพักแต่ละราย ทั้งนี้ก็ต้องดำเนินการกันต่อไป เพียงแต่การดำเนินการนั้นจะต้องเป็นระบบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายS__3719184

ร่วมแสดงความคิดเห็น