ในช่วงระยะนี้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ทางภาคเหนือ ติดต่อกันมาหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของแต่ละจังหวัด บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง ไร่นาจมอยู่ใต้น้ำ และแหล่งน้ำต่างๆ เช่นแม่น้ำ หนอง คลอง บึง เจิ่งนองไปด้วยน้ำ หลังจากหน้าฝนปีที่แล้วได้ประสบภาวะฝนแล้งไปทั่ว “แม่น้ำปิง” เป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในสองของแม่น้ำที่บรรจบมาเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิงไหลอยู่ในหุบเขาระหว่างทิวเขาถนนธงชัยกลางกับทิวเขาผีปันน้ำตะวันตก มีต้นน้ำอยู่ที่ดอยเชียงดาวในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ไหลลงทางใต้ผ่านจังหวัดลำพูน รวมกับแม่น้ำวังที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ไหลลงใต้ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร แล้วบรรจบกับแม่น้ำน่านที่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และจากจุดนี้ไปเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิงมีความยาวทั้งสิ้น 658 กิโลเมตร
แม่น้ำปิงมีแม่น้ำสาขาที่สำคัญอยู่ 6 สาย ได้แก่ น้ำแม่งัด น้ำแม่แตง น้ำแม่กวง น้ำแม่ลี้ น้ำแม่กลาง และน้ำแม่แจ่มและมีเขื่อนที่สำคัญกั้นลำน้ำสายนี้คือ”เขื่อนภูมิพล” ตั้งอยู่ที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เหนือเขื่อนนี้จึงทำให้เกิดทะเลสาบดอยเต่า ตั้งอยู่ที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงภายหลังการสร้างเขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ด้วยภูมิประเทศที่สวยงามทำให้บริเวณแห่งนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ลือชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ รวมเขตพื้นที่เหนือเขื่อนของจังหวัดตากด้วย
ในส่วนของ”ทะเลสาบดอยเต่า”เป็นทะเลสาบที่มีบริเวณน้ไกว้างขวางมาก ที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นแหล่งประมงแหล่งใหญ่มีปลามากมายหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวได้ทานกัน ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มเล็กและจะมาแบบไปเช้า – เย็นกลับหรือนอนพักที่นี่ก็ได้ บริการแพที่นี่ก็มีหลากหลายบริการไม่ว่าจะเป็นแบบลากแพไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกอุ่มแป๋ ผาวิ่งชู้ พระธาตุดอยเกิ้ง หรือบริการลากแพไปถึงหน้าเขื่อนภูมิพลจังหวัดตากเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายของฝากจากดอยเต่า ส่วนมาจะเป็นการแปรรูปจากปลาไมว่าจะเป็นปลาแห้ง ปลากรอบ ปลาแดดเดียว ผลไม้ตามฤดูกาล ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝาก
ทะเลสาบดอยเต่า..!! ที่ลือชื่อได้กลับกลายไปเป็นอดีตเสียแล้ว
ในปี 2556 “ทะเลเสสาบดอยเต่า” มีสภาพแห้งขอดอย่างหนักเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลทำให้ปริมาณที่เคยไหลลงสู่ทะเลสาบแห่งนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายเดือน จนกระทั่งทำให้ปริมาณน้ำที่เคยมีระดับสูงสุดถึงบริเวณริมตลิ่งแห้งขอดลึกเข้าไปในตัวอ่างเก็บน้ำ เป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร จนมองเห็นแต่ผืนดินแห้ง เหลือเพียงร่องน้ำความกว้างเล็กน้อยให้น้ำไหลเข้าสู่ตัวอ่างเก็บน้ำเท่านั้น
ผลจากการที่”ทะเลสาบดอยเต่า”ต้องประสบภาวะแห้งขอดตื้นเขินในครั้งนี้ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งการทำประมงพื้นบ้าน ที่ต้องมีเรือหรือแพหาปลา ลึกเข้าไปในตัวอ่างเก็บน้ำเป็นระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร เพิ่มต้นทุนในการเดินทางเข้าไปจับปลาและนำปลาไปส่งขายที่ตลาดรับซื้อ ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านหลายรายถึงกับต้องหยุดหาปลาในช่วงนี้ แล้วหันไปประกอบอาชีพรับจ้างอย่างอื่นแทน
ขณะที่ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวของเอกชนได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน จากการที่เคยมีรายได้วันละนับหมื่นบาทจากการพานักท่องเที่ยวล่องแพค้างแรมในทะเลสาบดอยเต่า และล่องไปถึงเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ในเวลานี้ก็ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากปริมาณน้ำในทะเลสาบที่ตื้นเขิน ต้องจอดแพเกยตื้นและขาดรายได้
ปัจจุบันนี้(ปี2559)พื้นที่บริเวณทะเลสาบดอยเต่า มีเพียงสายน้ำเล็กไหลสู่หน้าเขื่อนภูมิพล ถึงแม้ช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนก็ตาม ชาวอำเภอดอยเต่าเข้าไปจับจองพื้นที่ทำการเกษตรกรรม ปลูกข้าวโพด เลี้ยงวัว ฯลฯเพื่อหารายได้แทนอาชีพประมงและเรือแพ
ทุกวันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยวและหลงไหลธรรมชาติที่สวยงามของ “ทะเลสาบดอยเต่า” เมื่อในช่วงระยะนี้มีฝนตกหนัก นักท่องเที่ยวต่างก็วาดฝันว่า “ทะเลสาบดอยเต่า”จะฟื้นคืนชีพมาแน่ ก็อดที่จะชื่นชมให้เห็นกับตา จึงพากันแวะเวียนไปไม่ขาดสายแต่แล้วก็ผิดหวัง คงเหลือแต่ความวังเวงว่างเปล่าเท่านั้น
หากมองไปในอนาคตต่างก็คาดว่า “ทะเลสาบดอยเต่า”จะเป็นเพียงอดีตไป เนื่องจากต้นแม่น้ำปิง มีเขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนแม่งัด เขื่อนแม่กวง มีการกักเก็บน้ำไว้เพื่อรองรับการอุปโภค-บริโภคในแต่ละปี อีกทั้งมีฝนตกน้อยในแต่ละปีจึงไม่สามารถปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำปิงไปเติมเต็มระดับน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลเช่นนี้อีกต่อไป….
ร่วมแสดงความคิดเห็น