ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ชี้แจง วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล

b22
ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

จากกรณี นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล มี ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง พร้อมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน และกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 7 คน ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงผู้ว่าเชียงใหม่ ที่ศาลากลางเชียงใหม่เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 โดยมี นายมงคล สุกใส รอง ผวจ.เชียงใหม่เป็นผู้รับมอบ โดยทางวิสาหกิจฯ ได้ ขอให้ทาง จ.เชียงใหม่ หาแนว ทางแก้ไขปัญหากรณีที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จะเลิกสั่งซื้ออาหารสัตว์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว ส่งผลกระทบปัญหาปากท้องของชาวบ้านในพื้นที่กว่า 500 ครอบครัว นั้น

ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า ได้นำเอกสารของสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ที่แจ้งเตือนไปยังวิสาหกิจชุมชน “เรื่องการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์” ปี 2555 ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งชี้แจงเรื่องที่วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ร้องเรียนต่อจังหวัดเพื่อขอให้แก้ปัญหา 500 ครอบครัวที่ต้องเดือดร้อนจากการยกเลิกการซื้ออาหารจากวิสาหกิจชุมชนฯ ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับหนังสือที่ทางสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ทำหนังสือแจ้งไปยัง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ นั้น ได้แจ้งไปตั้งแต่ปี 2555 เมื่อวันที่ 31 มกราคม นั้น ระบุว่า “ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้รับเอกสารการขอต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ ปี 2555 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 นั้น ในการนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไม่สามารถดำเนินการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ปี 2555 ให้ได้เนื่องจากกลุ่มฯ ยังไม่ได้ดำเนินการหาสถานที่ทำการแห่งใหม่ รายละเอียดตาม หนังสือที่ ชม. 0109/016 ลงวันที่ 25 มกราคม 2555 ทั้งนี้ขอให้กลุ่มดำเนินการหาสถานที่ทำการแห่งใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อจะได้ดำเนินการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนให้ในปีต่อไป ลงชื่อ นายนิคม ไชยวุฒิ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทนเกษตรอำเภอเมืองเชียงใหม่”

ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้เปิดเผยว่า เมื่อปี 2553 ได้มาดำรงตำแหน่ง ได้ทราบว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ซื้ออาหารสัตว์จากอำไพการเกษตร มากกว่าวิสาหกิจชุมชน ในเวลานั้นอยู่มาได้ 6 เดือน พอผ่านการประเมินเมื่อปลายปี 53 สิ่งที่ผมทำก็คือได้เชิญอำไพการเกษตร มาพบกับกำนันดี (นายดี จันทคลักษณ์)  กำนันถา  และวิสาหกิจชุมชน ว่า ผมขอปรองดองวิสาหกิจชุมชนเขามี MOU กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมา ขอแบบนี้ได้ไหมให้วิสาหกิจชุมชนฯ เลือกก่อนว่าอะไรที่เขาทำไม่ได้แล้ว อำไพการเกษตรค่อยทำ คือ อาหารเม็ดกับไก่ ก็ต้องอำไพการเกษตรทำ วิสาหกิจชุมชนทำไม่ได้ สถานการณ์ในตอนนั้นก็กลับมาดีขึ้น กระทั่งปี 57 เราได้มีการเชิญผู้ตรวจสอบบัญชีมาตรวจสอบ โดยเมื่อปี 57 เขาก็บอกว่าเนื้อสัตว์นั้นไม่น่าจะซื้อวิธีพิเศษจากวิสาหกิจชุมชน เพราะวิสาหกิจชุมชนก็ไปซื้อเจ้าอื่น และคำว่าเนื้อสัตว์นั้นชัดเจนว่า วิสาหกิจชุมชนไม่ได้เลี้ยง โดยไปซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์ เราอยากให้มีการแข่งขันประมูล แต่หากเป็นพืชผักผลไม้เราไม่ว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็ได้เริ่มปี 57 ให้มีการยื่นซองประมูลตามระเบียบที่ถูกต้อง  แต่ว่าพืชผักผลไม้ยังคงให้วิสาหกิจชุมชนเหมือนเดิม

ต่อมาปี 59 ต้นปี เดือนกุมภาพันธ์  มีนาคม  ทาง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เตือนมายังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่า ใบทะเบียนของวิสาหกิจชุมชนนั้นหมดอายุ ควรจะแจ้งให้ทางวิสาหกิจชุมชนไปแจ้ง จดให้เรียบร้อย เพราะวิธีที่ทางวิสาหกิจฯ ซื้อวิธีพิเศษ ทาง สตง.ไม่เห็นด้วย แต่หากจดทะเบียนเรียบร้อยก็สามารถซื้อต่อได้  โดยทาง สตง. ให้เริ่มทำตั้งแต่วันที่  1 ตุลาคม 2559  ให้เรียบร้อยและถูกต้องตามกระบวนการ มิฉะนั้น สตง.ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี   ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ชี้แจงต่อ นายดี จันทรลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ในการดำเนินการยื่นจดทะเบียนให้เรียบร้อย เพื่อให้ทันต่อระยะเวลาที่ สตง.กำหนด และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะได้ซื้อผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจฯ ได้

รวมทั้งได้เชิญมาพูดคุยชี้แจงเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559  วิสาหกิจฯ ได้มายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะยกเลิกเขาโดยไม่ถูกต้อง โดยเขาเป็นวิสาหกิจชุมชน  ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ชี้แจงต่อวิสาหกิจชุมชน   และที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 6 ปี ในช่วงที่ผมอยู่ในตำแหน่ง เราก็ได้ให้การสนับสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเสมอมา

สิ่งที่ทางวิสาหกิจฯ ต้องทำให้ถูกคือไปจดทะเบียนให้ถูกต้อง แต่ไม่ไปจด และสาเหตุที่ไม่ไปจดทะเบียนเพราะว่าที่ดินที่วิสาหกิจชุมชนอยู่นั้น เป็นที่พิพาท ความเดิมวิสาหกิจชุมชนพิพาทกับกรมส่งเสริมการเกษตร ที่มีข้อพิพาทกับกรมส่งเสริมการเกษตรนั้น เพราะที่แห่งนั้นเป็นที่สาธารณะ ต้องยื่นขอใช้ประโยชน์จากกระทรวงมหาดไทย  ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้บอกว่าที่ใช้กันอยู่คือวิสาหกิจฯ และกรมส่งเสริมการเกษตร นั้นผิดทั้งคู่ เพราะที่ตรงนั้นเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้ใช้สอยร่วมกัน  ก็ให้มายื่นให้ถูกต้อง

ประเด็นที่เราเตือนทางวิสาหกิจฯ คือใบจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเขาขาดไม่ไปต่อให้ถูกต้อง เพราะกรมส่งเสริมการเกษตรได้บอกว่า ถ้าจะให้กรมส่งเสริมการเกษตรต่อใบจดทะเบียนให้   วิสาหกิจชุมชนต้องออกจากพื้นที่  ซึ่งวิสาหกิจชุมชนไม่ยอมออก และตอนหลังผมรู้ต่อมาโดยทางนายอำเภอหางดง แจ้งข้อมูลให้ฟังว่าที่ดินดังกล่าวมีทั้งหมด 7 ไร่ ไร่ละ 20 ล้าน รวมเป็นเงิน 140 ล้าน ฉะนั้นปัญหาต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แต่อยู่ที่ทางวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งก็ต้องไปทำเรื่องต่อกระทรวงมหาดไทยให้ถูกต้อง ฉะนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เมื่อทางกรมฯ เขาบอกว่าพื้นที่ตรงนี้มันผิดเป็นที่    ที่ทางกรมฯกับวิสาหกิจฯ พิพาท กันอยู่ กรมจะจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนให้ได้ต่อเมื่อ ทางวิสาหกิจฯไปใช้ที่อยู่ตรงไหนก็ได้ เพราะทางวิสาหกิจชุมชนได้ระบุว่าเขามีครอบครัวถึง 500 ครอบครัว คือใช้บ้านคนไหนก็ได้กรมก็จดให้ได้ทั้งนั้น คือ หากทางวิสาหกิจฯ ย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่แล้วกรมฯคงจดทะเบียนให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเองก็ได้บอกทางวิสาหกิจฯ ในวันที่ 30 กันยายน 2559 ก็ขอให้ไปจดทะเบียนวิสาหกิจฯ ให้เรียบร้อย ทางวิสาหกิจก็ไปดำเนินการ กรมฯ ก็ไปดำเนินการช่วยจดให้ แต่ว่าเขาต้องย้ายออก  ซึ่งข้อเท็จจริงที่ผ่านมานั้นเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ต่อสู้ช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชน มาโดยตลอด

ดร.ศราวุฒิ ได้เผยต่อไปอีกว่า  ส่วนที่วิสาหกิจฯ ได้ระบุว่ามีการเซ็น MOU กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตั้งแต่แรกหากไม่เซ็นต์ MOU ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็สร้างไม่ได้ในตอนแรกนั้น   แท้จริงแล้ว MOU เป็นการบันทึกความเข้าใจ  แต่ MOU นั้นไม่ได้สูงกว่ากฏหมาย  ดังนั้นเวลาซื้อขายอะไรก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ในที่ประชุมเอง รอง ผวจ.เชียงใหม่ โดยนายมงคล สุกใส ได้ตัดสินใจว่าวิสาหกิจชุมชนต้องไปจดทะเบียนให้เรียบร้อย ก็ต้องย้ายออกมาก่อน ส่วนคดีพิพาท ก็พิพาท กันไป ตอนจบหากศาลตัดสินให้วิสาหกิจชุมชนเป็นฝ่ายชนะ ก็ค่อยกลับมาใช้ใหม่ แต่ตอนนี้ต้องย้ายออกไปก่อน เพราะหากไม่ย้ายออกก็จดทะเบียนไม่ได้ คือที่ไม่ถูกต้อง กรมฯ ก็จดให้ไม่ได้ คือต้องทำตามกฏหมาย ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด” ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น