เมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 21 ต.ค.59 ทางพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่ นำโดย นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองเชียงใหม่ และ นายปรีชา ศิรินาม ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.ที่ 4 พันพัฒนา 3 กกล.รส.จว.ชม. และสมาชิก อส.กองร้อย อส.อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ 2 ได้ร่วมกันเดินทางลงตรวจที่ โรงแรม อีสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเมญ่า ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าโรงแรมดังกล่าว ยังมีการเปิดให้บริการกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการสั่งให้ปิดการให้บริการไปแล้วถึง 2 ครั้ง เนื่องจากโรงแรมดังกล่าว ไม่มีดำเนินการขออนุญาตประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งได้มีการสั่งให้มีการขึ้นป้ายแจ้งปิดการให้บริการไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 ต.ค.59 ที่ผ่านมา และได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบในวันนี้ ก็พบว่าโรงแรมดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการกับประชาชนและนักท่องเที่ยวตามเดิม และสังเกตุได้ว่ายังคงมีผู้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลเคาน์เตอร์โรงแรม ก็ยังคงพบว่ามีการให้บริการกับผู้เข้าพักอยู่ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการสั่งดำเนินคดีซ้ำอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว หลังจากที่ได้มีการลงตรวจ และดำเนินคดีมาแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งยังได้เชิญตัวผู้ดูแลโรงแรมไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อย่างไรก็ตามในการลงตรวจครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่และได้อนุญาตให้ดำเนินการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้เดินทางไปสอบสวนเพิ่มเติมตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือ
ขณะเดียวกันทาง นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่า “สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ก็เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินคดีกับทาง โรงแรม อีสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ แห่งนี้ไปแล้วถึง 2 ครั้ง และในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 ที่จะดำเนินคดี และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ ก็ได้มีการแนะนำไปแล้วแต่ทางโรงแรมก็ยังไม่ดำเนินการตามที่ได้แนะนำไป ขณะเดียวกันเมื่อส่งดำเนินคดีแล้ว แต่ยังคงไม่ดำเนินการอีก ก็จะต้องมีการจับดำเนินคดีตามกฎข้อบังคับซ้ำๆ แบบนี้ จนกว่าทางโรงแรมจะหยุด ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ทางอำเภอใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ”
“แต่การดำเนินการในครั้งนี้ก็เนื่องจาก ได้มีการสังเกตุการณ์และผ่านไปมา และตรวจตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบครั้งนี้ก็ยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกโรงแรม อีกทั้งยังมีรถบริการอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าดำเนินการตรวจสอบ และหลังจากการตรวจสอบครั้งนี้ ก็ยังคงพบว่าทางโรงแรมยังได้มีการบริการอยู่ จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนของการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป หลังการดำเนินการแล้วก็ขึ้นอยู่กับทางศาลว่าจะมีการพิจารณาให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง และการดำเนินการจับกุมทุกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเรื่องส่งทางศาลทุกครั้ง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่” ปลัดอาวุโส กล่าวทิ้งท้าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น