ระวังสุขภาพเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว

p7

นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนฤดูเข้าสู่ฤดูหนาวมีทั้งฝนตก บางช่วงอากาศหนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เชื้อโรคหลายชนิดสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยโรคที่มาพร้อมกับช่วงเวลานี้ที่สามารถพบบ่อย คือ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม มีสาเหตุมาจากรับเชื้อไวรัสที่สามารถ เข้าสู่ร่างกายทางจมูก ปากและตาได้โดยง่าย เชื้อชนิดนี้มักอยู่ในละอองเสมหะ นํ้ามูกนํ้าลายของผู้ป่วยที่ไอ จาม และอาจติดอยู่กับภาชนะหรือพื้นผิวที่เปื้อนนํ้ามูก นํ้าลายของผู้ป่วยได้สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสถานที่ที่มีคนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ นํ้ามูกไหล ไอ จาม เจ็บหรือแสบคอ อาจมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย สำหรับในรายที่เป็นไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการ
รุนแรงกว่าคือ มีไข้สูง ปวดศีรษะปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อ และมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีภูมิต้านทานโรคตํ่ากว่าคนปกติ ผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กและผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านอย่างใกล้ชิดและหากตนเองหรือบุคคลในครอบครัวมีอาการไม่สบายเป็นไข้หวัดมีไข้ ไอ มีนํ้ามูกควรให้ผู้ป่วยพักผ่อนอยู่กับบ้าน หากมีความจำเป็นต้องออกไปในสถานที่สาธารณะ ให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและหมั่นสังเกตอาการ หากตัวร้อนมาก ให้รับประทานยาลดไข้ ใช้ผ้าชุบนํ้าเช็ดตัว หรือถ้าอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีอาการไอมาก แน่นหน้าอก มีไข้นานเกิน 2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์

สำหรับแนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลสุขภาพในช่วงอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย คือ หมั่นดูแลสุขภาพอย่างสมํ่าเสมอ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานโรคในร่างกายตํ่าลงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดหวาน มัน เค็ม ปรุงอาหารให้สุกก่อนการบริโภค ดื่มนํ้าสะอาด และรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอสุก สับปะรด ล้างมือด้วยนํ้าสบู่หรือเจลทำความสะอาดทุกครั้ง หลังจากทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูหนัง เข้าห้องนํ้า เป็นต้น

ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะจะทำให้ร่างกายแข็งแรงต้านทานต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ เช่นการเดิน การวิ่งเหยาะๆ การปั่นจักรยาน การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น นอกจากนี้ควรทำจิตใจให้แจ่มใสไม่เครียด จะทำให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าวได้

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าประชาชนปฏิบัติตนได้ตามคำแนะนำ จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ได้ ทั้งนี้ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับฟังข้อมูลข่าวสารเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ในส่วนของประชากรกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทุกปี ตามสถานบริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ ที่มา : ประชาสัมพันธ์กรมการแพทย์

ร่วมแสดงความคิดเห็น