ติวเข้มค้าชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มมูลค่าแข่งขัน

b-2กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนา “แนวทางการค้าชายแดนเชิงรุกกับเมียนมา” ที่จังหวัดเชียงราย หนึ่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาลและจะเดินสายให้ความรู้ ในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนให้ครบทุกพื้นที่ต่อไป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

นายนิติ แสงสุกแสง ผู้อำนวยการกองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ บรรยายเรื่อง “การค้าชายแดนกับกรมการค้าต่างประเทศ” ว่า คณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนมีนโยบายให้ประเทศไทยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนให้ได้ปีละ 1.7 ล้านล้านบาทเริ่มตั้งแต่ปี 2559ซึ่งที่ผ่านยังไม่ปรากฎว่าสามารถดำเนินการได้อย่างไรก็ดีเชียงรายถือว่ามีการค้ากับเมียนมาสูงถึงปีละกว่า 12,000 ล้านบาทและเกือบทั้งหมดจะเป็นการส่งออกส่วนการนำเข้ามีน้อยมาก ดังนั้นจึงมองว่าสินค้าไทยจึงมีอนาคต เพราะผู้บริโภคในเมียนมานิยมสินค้าไทยมากกว่าจีนขณะเดียวกันปัจจุบันข้อตกลงการค้าในกลุ่มอาเซียนต้องใช้แบบฟอร์มเดียวกันเพื่อให้ได้รับสิทธิด้านภาษีหรือ แบบฟอร์มดี แต่พบว่า ด่านชายแดนของเมียนมาไม่สามารถออกแบบฟอร์มดังกล่าวได้ ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานกลางที่กรุงเนปิดอว์ ทำให้กระบวนการล่าช้ามาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา

ส่วน เทคนิคการค้าในเมียนมา นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่าสินค้าไทยได้รับความนิยมและยอมรับจากประเทศต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพ โดยยกตัวอย่างการค้ากับอินเดียว่าหลังทำเอฟทีเอการค้าไทย-อินเดีย

ด้านนางสาวผกายมาศ เวียร์ราประธานคณะกรรมการสาขาเชียงราย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้จีนมีนโยบายพัฒนาเส้นทางเบ็ดเสร็จทางเดียวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันตก โดยกำหนดให้การขนส่งสินค้าประเภทแช่แข็ง ห้องเย็น ตู้คอนเทนเนอร์ ต้องใช้เส้นทางเฉพาะแม่โขงเท่านั้น รัฐบาลจีนได้มีการลงทุน ณ ท่าเรือกวนเหล่ย รองรับนโยบายดังกล่าวกว่า 2,000 ล้านหยวน เพื่อให้มีศักยภาพในการรองรับอาหารแช่แข็ง ตู้คอนเทนเนอร์ เครนยกตู้ ห้องตรวจหรือแล็ปตรวจสินค้า ห้องเย็นสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออกสินค้า สถานที่สำหรับสินค้าผักสด-ผลไม้ โดยกำหนดให้เป็นช่องทางรองรับสินค้าจากเขตเศรษฐกิจ 3 มณฑลคือมณฑลยูนนาน มณฑลเสฉวนและมณฑลกุ้ยโจวปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่มีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 มกราคม 2560 นี้

นางสาว.ผกายมาศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นโยบายของจีนถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะกำหนดให้ทั้ง 3 มณฑลทางใต้ต้องใช้การนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวเฉพาะท่าเรือกวนเหล่ยแห่งเดียวเท่านั้น โดยอ้างว่าการขนส่งทางบกด้านอื่นทั้งบนถนนอาร์สามเอ. เชื่อมไทย-สปป.ลาว-จีน หรือแม้แต่ที่ติดกับประเทศเวียดนามยังไม่มีมาตรฐานเพียงพอ

ร่วมแสดงความคิดเห็น