จัดแถวบันเทิง รับไฮซีซั่น ภาค 5 คุมเข้ม ย้ำยึดหลักกฎหมาย อย่าใช้การ์ดนักเลง

5
จัดแถวบันเทิง………..ตำรวจภูธรภาค 5 จัดการประชุมแนะนำแนวทางการปฏิบัติให้แก่สถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 เป็นประธาน มีผู้ประกอบการในพื้นที่กว่า 200 คน เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมฯ ภาค 5

ตำรวจภาค 5 เรียกประชุมผู้ประกอบการสถานบันเทิงทั่วเมืองเชียงใหม่ เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือในการเปิดให้บริการอย่างโปร่งใส พร้อมทั้งมีการดูแลความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ย้ำหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามที่ขอความร่วมมือก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างภาพลักษณะและรักษาชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ที่ขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยว สำหรับร้านที่จะมีการ์ดหรือเจ้าหน้าที่ดูแลร้าน ต้องปฏิบัติอย่างดีต่อผู้เข้าใช้บริการ ห้ามใช้ความรุนแรงทุกกรณี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจตรีพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานจัดการประชุมแนะนำแนวทางการปฏิบัติให้แก่สถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 200 คน เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจง รวมถึงแนะนำแนวทางในการปฏิบัติในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานบริการ การรักษาความปลอดภัย การแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ตลอดจนขอความร่วมมือการประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์หรือเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ในช่องทาง @191 ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลสำคัญด้วย

ขณะเดียวกันได้มีการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้กำชับผู้บังคบการตำรวจภูธรจังหวัดใน สังกัด, ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน, ตำรวจภูธรภาค 5 และหัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัดทั้ง 195 แห่ง กวดขันการกระทำความผิดของสถานบริการ และ/หรือ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คลายสถานบริการ สถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือ หอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาอย่างเข้มข้น จริงจัง ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการโชว์ลามก ค้าประเวณีเด็ก การจำหน่ายยาเสพติด ตลอดจนการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ อีกทั้งยังเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามตำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 อย่างเคร่งครัด

โดยทาง พลตำรวจตรีพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยในที่ประชุมครั้งนี้ว่า ในการจัดประชุมวันนี้ถือเป็นการพูดคุยและทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการที่จะทำอย่างไรไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านท่องเที่ยว ทางรัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศชาติมีรายได้และนำมาสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ดี ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงต้องช่วยกันในการดูแลและให้ความพึงพอใจกับนักท่องเที่ยว และการที่จะมาทำเรื่องของสถานบริการต่างๆ จะต้องมีการศึกษากฎหมายที่มีความเกี่ยวข้องให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะในเรื่องของข้อห้ามและกฎข้อบังคับต่างๆ และดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยุคที่การสื่อสารนั้นมีความรวดเร็ว เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาข่าวสารก็จะถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องดำเนินการอย่างถูกต้องไว้ก่อน ขณะเดียวกันทางผู้ประกอบการก็อย่ามุ่งแต่เพียงผลกำไรที่จะได้รับ และอยากให้มุ่งไปในเรื่องของประโยชน์ทางสังคมเพื่อความสงบสุขภาพรวมและคำนึงถึงความถูกต้องของกฎหมายด้วย รวมถึงขอความร่วมมือในการเป็นหูเป็นตาที่จะคอยให้เบาะแสกับทางเจ้าหนน้าที่ตำรวจหากมีผู้กระทำความผิดในพื้นที่ เพราะบางครั้งบางทีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจมีจุดบกพร่อง และอยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยึดเรื่องความถูกต้องเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการ์ดหรือเจ้าหน้าที่ดูแลตามสถานบริการต่างๆ นั้นจะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งการ์ดหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้นมีหน้าที่ดูแลคุ้มครองผู้เข้าใช้บริการให้เกิดความปลอดภัย แม้อาจจะมีปัญหาบ้างบางครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นแนวทางปฏิบัติของการ์ดหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่ใช่มีหน้าที่ไปทำร้ายคน โดยทางตนขอเน้นย้ำว่าในจังหวัดเชียงใหม่และในพื้นที่ภาค 5 จะต้องไม่ให้มีการกระทำในลักษณะเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพรวมของการท่องเที่ยว และชื่อเสียงของจังหวัดด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น