ฉก.แก่งปันเต๊า จับสาวดอยซุกยาบ้า 2 พันเม็ดในกางเกงใน

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 59 ตามข้อสั่งการของ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐ รรท.ผบช.ภ.5,พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฎิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.5(ปส.)พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล รอง ผบก.สั่งการให้เฝ้าระวังขบวนการค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยงใช้ช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ลำเลียงยาเสพติด สิ่งผิดกฏหมายเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย

ต่อมา พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี ยะปาละ ผกก.สภ.เชียงดาว,พ.อ.ม.ล.ประวีร์ จักรพันธุ์ ผบ.ฉก.ม.5,นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว พร้อมชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.ภาสกร ปกปิงเมือง รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.ดวงเด็ด กันทะคำ สว.สส. , พ.ต.ต.ดิลก อารินเป็ง ผบ.ร้อย ตชด.335, พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรเชียงดาว,เจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.335 ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ม.5 จับกุม น.ส. อีหอ ปะแอ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398 ม.15 ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 8 ถุง และถุงสีดำจำนวน 2 ถุงมี(ยาบ้าชนิดกลมแบน ด้านหนึ่งเรียบอีกด้านประทับตัวอักษร(wy) เม็ดสีส้มจำนวนถุงละประมาณ 200 เม็ด และสีเขียวจำนวนถุงละ 2 เม็ด)รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 2,000 เม็ด ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟร์อย พันด้วยผ้าเทปใส ซุกซ่อนไว้ในกางชั้นใน ในตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่

โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”โดยจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจแก่งปันเต๊า หมู่ที่ 10 ถนนโชตนา ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจแก่งปันเต๊า ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบลำเลียง นำยาเสพติดผ่านด่านตรวจ เพื่อจะนำเข้าไปในตัวเมืองชั้นใน โดยจะมีผู้หญิงเป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จะปะปนมากับผู้โดยสารรถประจำทาง เมื่อได้รับแจ้งดังนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดประจำด่านตรวจจึงได้ทำการตรวจรถโดยสารตามปกติ

จนกระทั่งเวลา ประมาณ 19.30 น.ได้มีรถทัวร์สายท่าตอน-กรุงเทพฯ ผ่านมาที่ด่าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขึ้นตรวจตราบนรถคันดังกล่าว ในขณะที่ทำการตรวจตามปกติอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่า น.ส.อีหอ ปะแอ มีอาการเป็นพิรุธ จึงได้ขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชนและขอตรวจสัมภาระ แต่ว่า น.ส.อีหอฯ เกิดอาการตัวสั่น หน้าซีด พูดจาวกวน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เชิญตัวลงมาจากรถโดยสาร เพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด น.ส.อีหอฯ ได้ยอมรับว่า ตนได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในตัว ของกลางดังกล่าวได้ซุกซ่อนไว้ในกางเกงชั้นในตัวที่ สวมใส่อยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ อส.ที่เป็นผู้หญิงทำการตรวจค้นตัว และได้นำเอายาเสพติดของกลางออกมาให้แก่เจ้าหน้าที่่

จากการสอบถาม น.ส.อีหอฯ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า เมื่อประมาณ 2 วันก่อนหน้านี้ ได้เข้าไปที่ป่าในหมู่บ้าน เพื่อไปหาหน่อไม้ ได้พบชายสูงอายุ ชนเผ่ามูเซอ ไม่ทราบชื่อ ได้ชักชวนให้รับจ้างส่งยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ของกลางดังกล่าว และในวันที่ 27 ธ.ค.2559 เวลาประมาณ 23.00 น.จึงได้ไปเอายาบ้า ของกลางดังกล่าว ที่ในป่าดอยปู่หมื่น ที่มีคนนำไปวางเอาไว้ ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงสีขาว พื้นที่หมู่บ้านไม่ทราบชื่อ เขตพื้นที่ อ.แม่อาย จากนั้นจึงนำยาบ้าของกลางมาพักที่บ้านของตนเอง ก่อนที่จะได้นำส่งให้กับลูกค้าที่นัดหมายไว้ที่กรุงเทพฯ และนัดหมายกันว่าจะให้ลงรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต และนำยาบ้าของกลางไปวางไว้ในถังขยะ แล้วจะมีคนไปรับเอาอีกทอดหนึ่ง ตามที่ได้นัดหมายกันไว้ หลังจากงานสำเร็จจะมีผู้นำค่าจ้างขน จำนวน 20,000 บาท มามอบให้ที่บ้านพักที่ อ.แม่อาย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ ตรวจค้นและจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่ายังคงมียาเสพติดจำนวนมากจากแหล่งผลิตตามแนวตะเข็บชายแดนที่จะพยายามลำเลียงมาพักตามหมู่บ้านเป้าหมาย ก่อนที่จะให้กลุ่มขบวนการทยอยลำเลียงเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน โดยขบวนการยาเสพติดมีวิธีการลักลอบซุกซ่อนยาเสพติดหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจับกุมครั้งนี้คนร้ายแฝงตัวมาในรูปแบบของผู้โดยสารรถสาธารณะและซุกซ่อนยาเสพติดในร่างกาย แต่ไม่สามารถลอดสายตาเจ้าหน้าที่ได้ที่ผ่านมาชุดจับกุมสามารถจับกุมยาเสพติดสิ่งผิดกฏหมายได้บ่อยครั้ง จากดำเนินการตั้งด่านถาวรตลอด24ชั่วโมงเพื่อทำการตรวจสอบและสกัดจับกุมคนร้ายลอบขนยาเสพติดและสิ่งกฎหมาย รวมทั้งการก่อเหตุอาชญากรรม ตามนโยบายของรัฐในการแก้ไขอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่

ร่วมแสดงความคิดเห็น