ระเบิดขมับสยอง! ผู้กองบำนาญ เครียดสุขภาพ

ผู้กองฯ บำนาญเครียดปัญหาสุขภาพต้องทนทุกข์ทรมานมานาน ตัดสินใจใช้ปืนพกระเบิดขมับตัวเองสยองคารถเข็น เผยก่อนตายเรียกเมียกับแม่บ้านไปสั่งเสียเรื่องทรัพย์สินมรดก เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด พร้อมรับศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.ภัทราวุฒิ แจ้งอำพันธ์ พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุคนใช้อาวุธปืนทำร้ายตัวเองอาการสาหัส ที่บ้านค่าไหมไชยเจริญ หมู่ที่ 11 ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.มานพ ค้าขาย สวป.สภ.เมืองน่าน พร้อม จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นลานด้านหน้าบ้านพบ กู้ชีพ กู้ภัย อบต.ไชยสถาน จนท.รพ.น่าน จำนวนหนึ่งกำลังเร่งชันสูตรศพ ร.ต.อ.อัครินทร์ อดิเทพนรางกูร อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/2 บ้านค่าไหมไชยเจริญ หมู่ที่ 11 ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่นั่งบนรถเข็นได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นสมิธแอนด์เวลสัน ขนาด.38 ยิงเข้าบริเวณขมับข้างซ้ายทะลุออกขมับข้างขวา และอาวุธปืนตกอยู่บนตักผู้ตาย

ในเบื้องต้นได้สอบถามนางดานีย์ อดิเทพนรางกุล อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้กล่าวว่า ผู้ตายเป็นอาจารย์สอนพิเศษในเรื่องภาษาต่างประเทศ/ตั้งฟาร์มเลี้ยงสุนัข ขาย และโรคประจำเดินไม่ได้ไปไหนมาไหนจะต้องบนรถเข็น สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุจราจร ขณะที่รับราชการอยู่ที่ กทม,และได้ย้ายมาอยู่จังหวัดน่าน เมื่อ 2 วันก่อนทางญาติและครอบครัวลูกชายได้เดินทางมาเที่ยวหาในพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งในช่วงนั้นได้เกิดฝนตกทำให้อุณหภูมิลดลง อากาศเย็นลงแล้วผู้ตายก็ได้บนว่า ปวดกระดูกและทรมาน จากนั้นก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.20 น. ผู้ตายก็ได้เรียกตนไปพบพร้อมแม่บ้านที่ดูแลแล้วได้พูดเหมือนสั่งเสียก่อนตายในเรื่อง ทรัพย์สินมรดก และก็ได้บอกว่า หากผู้ตายได้ตายให้เอาศพไปไว้ที่วัดบ้านนาท่อ หมู่ที่ 1 ต.ไชยสถาน จากนั้นภรรยาผู้ตายก็ได้เดินเข้าไปข้างในบ้านเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งออกมาดูพบว่า ร.ต.อ.อัครินทร์ฯ ได้ใช้อาวุธปืนทำร้ายตนเอง จึงได้แจ้งทาง 1669 และ 191

ด้าน พ.ต.ท.ภัทราวุฒิ แจ้งอำพันธ์ พงส.สภ.เมืองน่าน ได้กล่าวว่าเบื้องต้นนั้นได้บันทึกที่เกิดเหตุพร้อมเก็บอาวุธปืนดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว และได้แจ้ง จนท.ตร.พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และจากการสอบถามภรรยาผู้ตายและญาติได้สันนิฐานในเบื้องต้นว่าผู้ตายน่าจะเครียดในเรื่องของปัญหาสุขภาพ และในเบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใดและจะรับศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น