“เชียงใหม่” รวบชาวยา กว่า 100 คน ติวเข้มฟื้นสมรรถภาพ

เชียงใหม่ขานรับนโยบาย คสช.เข้ม รวบรวม “ชาวยา”เข้าค่ายฟื้นฟู ตั้งเป้าปี 2560 จัดเข้าอบรมเข้ม 800 คน รุ่นแรก 800 คน จาก 12 อำเภอ เริ่มแล้ววางกรอบดำเนินการเข้มตามคำสั่ง คสช. ที่ 108/2557 มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ปรับวิถีการดำเนินชีวิต โดยอาศัยแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มั่นใจหากมียุทธ์ศาสตร์ มีแนวทางการดำเนินการชัดเจน สามารถนำคนดีกลับคืนสู่สังคมได้ ส่วนผู้ผลิตผู้ค้าวางมาตรการเข้ม ปราบปรามเฉียบขาด

ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.เชียงใหม่ ที่ 1 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2560 ซึ่งกำหนดอบรมระหว่างวันที่ 9-20 ม.ค.60 โดยมี นายชัชวาลย์ พุทธโธ ป้องกัน จ.เชียงใหม่ รายงานถึงวัตถุประสงค์การดำเนินการตามโครงการดังกล่าว และมีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิด อาทิ ผู้แทนจาก กอ.รมน.จว., ปปส.ภาค 5 ,สสจ.เชียงใหม่ และจากคุมประพฤติฯ

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของชาติ ส่งผลกระทบต่อความเดือนร้อนความทุกข์ยากของประชาชน และศักยภาพการพัฒนาประเทศ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็คือกลไกของประชารัฐ โดยที่หน่วยงานภาครัฐจะต้องร่วมดำเนินการควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ด้วยหลักการที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ทั้งนี้มีเป้าหมายในการดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ผู้ผลิต ผู้ค้า จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง

โดยการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ต้องเปิดโอกาสให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด ทั้งจากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ สังคม และผลประโยชน์ ชักนำให้ละเลิกพฤติการณ์ด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดยอาศัยแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำรงชีวิต เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

“ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.เชียงใหม่ ได้ถือปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางที่กล่าวมาแล้วอย่างเคร่งครัด การจัดทำค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน เป็นโครงการหนึ่งเพื่อการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ มาจากการคัดกรอง ค้นหา ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปรายปรามยาเสพติด ระดับอำเภอ โดยดำเนินการผ่านฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอ โดยมีแผนหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้จะดำเนินการโครงการนี้ ทั้งสิ้น 8 รุ่นๆ ละ 100 คน รวม 800 คน ครั้งนี้เป็นการดำเนินการในครั้งที่ 1 ประจำปี 2560 จำนวน 100 คน มาจาก 12 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด แม่ริม ฝาง แม่อาย สันป่าตอง สันทราย สารภี เวียงแหง และ อ.แม่วาง” นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าว

รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า แนวทางการนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู กระบวนการในการคัดกรองกลุ่มเป้าหมายเป็นไปตามประกาศของ คสช. ฉบับที่ 108/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค.57 ซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสและส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ลดละพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หันกลับมาเป็นคนดีของสังคม ด้วยวิธีการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายของผู้เข้ารับการบำบัด ให้มีสุขภาพแข็งแรง สร้างจิตสำนึก รักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีของตนเอง สร้างเสริมการมีระเบียบวินัย มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาอาชีพตามความชอบ ความถนัดอย่างเหมาะสมของแต่ละบุคคล ทั้งนี้เมื่อผ่านการบำบัดฟื้นฟูไปแล้ว จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนคนในสังคมไทยทั่วไป เป็นคนที่มีคุณภาพต่อสังคม และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

“รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการพัฒนาประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรายยาเสพติด จ.เชียงใหม่ เล็งเห็นความสำคัญของนโยบายนี้ จึงเร่งการดำเนินการจัดการกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยเชื่อว่าหากมีการกำหนดยุทธ์ศาสตร์ แนวทางการดำเนินการ และเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมมีการขับเคลื่อนการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเช่นนี้ จะสามารถลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะโครงการนี้ โครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าร่วมโครงการฯ อันจะเป็นการนำไปสู่การคืนคนดีสู่สังคมได้ต่อไป” นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น