ชาวบ้านเดือดร้อน!!! นายทุนสวนส้มแย่งน้ำชาวนา

ตามที่ “เชียงใหม่นิวส์” เสนอข่าวนายทุนสวนส้มแย่งน้ำชาวนา 1,230 ครอบครัว ใน ต.แม่สาว และ ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เดือนร้อนไม่มีน้ำทำนามานานนับปี ร้องเรียนไปที่อำเภอแม่อาย เรื่องเงียบ จนกระทั่งชาวบ้านจำนวนกว่า 300 คน เดินทางมาร้องเรียนจังหวัดพร้อมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ใช้ ม.44 ขอคืนพื้นที่ป่า โดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560

ข่าวคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแกนนำคนหนึ่ง ที่ออกมาเคลื่อนไหว ดังกล่าว พบว่าบ้านแกนนำรายนี้พบเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง นำรถยนต์ไม่ทราบทะเบียนรถ เข้ามาหมู่บ้าน มีพฤติกรรมคือ นำกล้องถ่ายภาพบ้าน และทะเบียนรถในบ้านทุกคัน ขณะที่เจ้าของบ้านออกมาดู กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ในรถยนต์รีบขับรถหนีออกไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งชาวบ้านมั่นใจว่า กลุ่มชายดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านของชาวบ้านเพื่อมาเก็บข้อมูลและถ่ายภาพนำไปให้กลุ่มคนใดคนหนึ่ง ที่อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาที่ชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวกรณีต่อต้านเจ้าของสวนส้มในพื้นที่อำเภอแม่อาย ซึ่งกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวลงพื้นที่มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2560 แล้ว เรื่องนี้ชาวบ้านได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว และแจ้งสื่อมวลชนดังกล่าว

ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ศาลากลางเชียงใหม่ นายอนันต์ สุนทร ประธานผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนายสมศักดิ์ เขื่อนแก้ว กรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาว พร้อมชาวบ้านผู้ทำนาใน ต.แม่สาว และ ต.แม่อาย จำนวนกว่า 300 คน ที่เป็นตัวแทนเกษตรกรผู้ใช้น้ำใน 2 ตำบล จำนวน 1,230 ครัวเรือน พื้นที่ทำนาได้รับผลกระทบไม่มีน้ำทำนาจำนวน 14,079 ไร่ เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งถึงรัฐบาล เรื่องเดือดร้อนของชาวนาที่ใช้น้ำทำนา ทั้งนาปี และนาปรังในปีนี้ มีนายมนัส ขันแก้ว ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับหนังสือ และกล่าวว่า จะรีบดำเนินการสอบสวนช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะนำเอกสารและข้อมูลทั้งภาพถ่ายและวีดีโอ ส่งให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือต่อไปนั้น

ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องคือ 1.ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฏหมายอุทยานและป่าไม้โดยเด็ดขาด 2.พื้นที่ใดติดขัดกฏหมาย เรียนผ่านผู้ว่าถึงนายกรัฐมนตรีของให้ใช้กฏหมายพิเศษ ม.44 และ 3.ขอให้ทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตป่าสงวนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ข้อ 4.ข้อให้ปฏิรูปข้าราชการในอำเภอแม่อายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำงานไม่สนองต่อความต้องการของประชาชน และข้อ 5. ข้อให้มีการสำรวจพื้นที่ในตำบลแม่สาวเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อรองรับภัยแล้งในอนาคต

สมศักดิ์ เขื่อนแก้ว กรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาว กล่าวว่า ชาวบ้านและเกษตรกรทำนาได้ยื่นหนังสือปัญหาที่พบคือ มีกลุ่มนายทุนที่ทำสวนส้มของ เฮียสุ เฮียวิเชียร เฮียฮู้ และเฮียม้ง และนายทุนชาวจีนอีกจำนวนหนึ่ง ได้มาลงทุนปลูกสวนส้มในพื้นที่บนยอดดอยเหนือที่ทำนาของชาวบ้านใน ต.แม่ลาว และต.แม่อาย พบว่า ผู้ทำสวนส้มดังกล่าวได้นำท่อพีวีซี เส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 2 นิ้ว 3 นิ้ว และ 4 นิ้ว และ 6 นิ้ว แล้วนำเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ดูดเอาน้ำ ดูดเอาน้ำจากลำน้ำแม่สาวไปใช้ในสวนส้มมานานหลายปี ซึ่งพื้นที่ปลูกส้มแต่ละรายมีกว่า 30-100 ไร่ คาดว่าจะมีมากหลายหมื่นไร่
กรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาว กล่าวอีกว่า ชาวบ้านเมื่อไม่มีน้ำทำนาในปี พ.ศ.2559 เกิดภัยแล้ง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ข้าวชาวนาตายไปเป็นจำนวนมาก และชลประทานก็ไม่ปล่อยน้ำลงแปลงนาชาวบ้านอีกด้วย จึงทำหนังสือถึงนายฉลวย พ่วงพลับ นายอำเภอแม่อายในขณะนั้น ประชุมร่วมกับทางอำเภอเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2559 มีการตั้งคณะกรรมการทำงานจัดการน้ำ มีการประชุมทุกฝ่ายและลงมติให้ร่วมกันแบ่งน้ำใช้ให้ยุติธรรมกับชาวนาและผู้ปลูกสวนส้ม ทุกฝ่ายลงลายมือชื่อ แต่กลุ่มผู้ปลูกสวนส้มไม่ยอมลงลายมือชื่อ และไม่ยอมรับมติการประชุม จึงเกิดการแย่งน้ำกันมานานกว่า 1 ปี

“เจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่อำเภอ ชลประทาน ก็ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเกษตรกรที่ทำนาเลย จึงเข้ามาร้องเรียนทางจังหวัดเชียงใหม่ และเข้าร้องเรียนกับทางทหารที่ มทบ.33 เพื่อเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวไปให้ถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เพื่อลงมาแก้ไข และหากเรื่องนี้ยังเงียบอีก ชาวบ้านทั้งหมดก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพบนายกรัฐมนตรีขอให้ใช้ ม.44 ต่อไป” นายสมศักดิ์ เขื่อนแก้ว กรรมการผู้ใช้น้ำตำบลแม่สาว กล่าว และวันนี้ชาวบ้านก็ได้มาแจ้งเบาะแสที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้าพื้นที่ถ่ายภาพบ้าน และทะเบียนรถดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น