ฮือฮา!! เกิดปาฏิหาริย์เมฆบังแดดขบวนเชิญศพ”พระเทพวิสุทธิคุณ”ให้คลายร้อน

ฮือฮาเกิดปาฏิหาริย์ในขบวนเชิญศพอดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ “พระเทพวิสุทธิคุณ” จากวัดบุพพารามใจกลางเมืองเชียงใหม่ไปยังวัดสวนดอก สถานที่ตั้งเมรุชั่วคราว รอพระราชทานเพลิงศพ มีพระสงฆ์-ศรัทธาประชาชนร่วมนับหมื่น แต่การจราจรลื่นไหลได้ แถมมีเมฆบังตะวันบ่าย ส่งผลให้ขบวนเดินอย่างสบายคลายร้อน พระพรหมมงคล วิ.อัศจรรย์ใจ ถวายเงินทำบุญครึ่งล้าน งานพระราชทานเพลิงจะมีวันเสาร์นี้

งานพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวิสุทธิคุณ (กุศล คันธวโร) อายุ 91 พรรษา 70 อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดบุพพาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เริ่มขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 25 มกราคม 2560 โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ศรัทธาประชาชน ศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และคฤหัสถ์ร่วมพิธีอย่างเนืองแน่นนับหมื่นคน ณ วัดบุพพาราม โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 12.30 น. วันที่ 25 มกราคม 2560 พระมหาดวงรัตน์ ฐิตรตโน เจ้าอาวาสวัดบุพพาราม และคณะสงฆ์ได้เชิญศพลงจากวิหาร เพื่อขึ้นปราสาทสำรองบนรถบุษบกเชิญศพจากวัดบุพพารามไปยังวัดสวนดอก พระอารามหลวง สถานที่ตั้งเมรุชั่วคราว เพื่อบำเพ็ญกุศลรอพระราชทานเพลิงศพ ที่จะมีขึ้นในบ่ายวันที่ 28 มกราคมนี้ โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.กระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ส่วนฝ่ายสงฆ์นั้น จะมีพระมหาเถระ กรรมการมหาเถรสมาคม พระผู้ใหญ่หนเหนือมาร่วมพิธีนั้น

ขบวนเชิญศพออกจากวัดบุพพารามตั้งแต่หลังเที่ยงวัน โดยมีพระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองนำพระสงฆ์สามเณรประมาณ 300 รูปเดินนำหน้า พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์แสดงเทศนาธรรมนำขบวน โดยในขบวนมีคฤหัสถ์แต่งกายชุดล้านนา ชุดไทยจักรี ชุดทหารโบราณ เชิญดอกไม้ธูปเทียน ต้นผึ้ง ต้นดอก อัฐบริหาร และรูปนักษัตร จากถนนท่าแพ ผ่านถนนคชสาร ราชเชียงแสน ผ่านประตูเชียงใหม่ด้านนอก ช่างหล่อ เข้าสู่ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ถึงสี่แยกประตูสวนดอกด้านนอกเลี้ยวเข้าสู่ถนนสุเทพ มุ่งหน้าไปยังวัดสวนดอกฯ ตลอดทางมีศรัทธาประชาชนได้โปรยข้าวตอกดอกไม้ และตั้งจุดบริการน้ำดื่มจำนวนมาก ใช้เวลาจนถึง 15.00 น.เศษจึงถึงที่หมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างมาก เมื่อขบวนเคลื่อนออกจากวัดบุพพาราม ตำรวจจราจรก็เปิดทางให้รถยนต์ตามหลัง และเลื่อนไหลโดยติดขัดไม่มากนัก สภาพอากาศตอนบ่ายเริ่มมีแสงแดดจ้าขึ้น แต่พอขบวนเคลื่อนผ่านหน้าวัดไปได้เล็กน้อย ก็เริ่มมีกลุ่มเมฆมารวมตัวกันด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ และบังดวงอาทิตย์ตลอดเวลาร่วม 2 ชม. ทำให้ผู้เข้าร่วมขบวนต่างเชื่อว่าเป็นอภินิหาริย์ อาจมีเทวดามาช่วยดลบันดานทำให้เมฆมาบังไม่ให้ขบวนเชิญศพเผชิญกับอากาศร้อนก็เป็นได้ แม้เมื่อขบวนไปถึงวัดสวนดอกฯ ซึ่งมีพระพรหมมงคล วิ.(หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) พระเถระอาวุโสสุดของเชียงใหม่ พระเทพโกศล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 และพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่คอยต้อนรับ เมฆที่บังดวงอาทิตย์ก็ทำท่าว่าจะคลาย แต่แล้วก็กลับมารวมตัวกันอีก จนกระทั่งเชิญศพขึ้นบนแท่นนกหัสลิงค์ ที่พระราชโพธิวรคุณ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เป็นเจ้าภาพสร้างขึ้นดวงอาทิตย์เริ่มจะโผล่ออกจากเมฆก้อนนั้น พร้อมกับพิธีสวดมาติกาบังสุกุล เป็นที่เรียบร้อย

ในพิธีตั้งบำเพ็ญกุศลศพพระเถระผู้ใหญ่ครั้งนี้ พระพรหมมงคล ได้ถวายปัจจัย 500,000 บาท พร้อมไตรจีวร ผ่านพระเทพโกศล พระเทพปริยัติ และพระเทพสิงหวราจารย์ เพื่อทำบุญงานศพของพระเทพวิสุทธิคุณ ท่ามกลางพระเถระ พระสังฆาธิการ ศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยพระมหาดวงรัตน์ ฐิตรตโน เจ้าอาวาสวัดบุพพาราม นิมนต์พระสงฆ์ 50 รูป สวดพระพุทธมนต์ธัมมสังคิณีมาติกา พิธีอาราธนาอัญเชิญศพขึ้นสู่เมรุนกหัสดีลิงค์ โดยในตอนค่ำวันเดียวกันมีพิธีเทศนาธรรม และสวดพระอภิธรรม ณ พระวิหารหลวงวัดสวนดอกฯ ซึ่งพิธีนี้จะมีทุกคืนจนถึงวันที่ 27 มกราคม และวันเสาร์ที่ 28 มกราคม เวลา 15.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ร่วมแสดงความคิดเห็น