กรมการขนส่งทางบก เผยผลการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ

กรมการขนส่งทางบก ระบุ!!! ผลการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและคนขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 229 แห่งทั่วประเทศ ในช่วง 3 วัน ที่ผ่านมา (24-26 ม.ค. 60) ตรวจสอบรถแล้ว 37,038 คัน พบรถไม่พร้อมสั่งห้ามใช้ทันที 429 คัน เปลี่ยนตัวคนขับแล้ว 16 ราย

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.60 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 229 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในระบบขนส่งสาธารณะตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยดำเนินการตรวจสอบตามแบบรายการตรวจรถโดยสารและผู้ขับรถที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด หากพบรถหรือคนขับมีข้อบกพร่องที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยในการให้บริการ สั่งห้ามให้บริการทันที โดยในช่วง 3 วัน นับแต่ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ (24-26 มกราคม 2560) ตรวจความพร้อมของรถจำนวน 37,038 คัน พบรถที่มีข้อบกพร่องจำนวน 4,434 คัน โดยเป็นข้อบกพร่องที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสาร สั่งเปลี่ยนรถแล้วจำนวน 429 คัน โดยพ่นสีข้อความ “ห้ามใช้” ที่กระจกรถและให้ผู้ประกอบการนำรถคันใหม่มาเปลี่ยนเพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัยและไม่ให้ผู้โดยสารตกค้าง เพื่อไม่ส่งผลกระทบในการเดินทางของประชาชน นอกนั้นเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยที่ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขนส่งอีกจำนวน 4,005 คัน ซึ่งได้เปรียบเทียบปรับ และในกรณีที่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ณ จุดตรวจความพร้อม ให้ดำเนินการแก้ไขก่อนให้บริการภายใต้การกำกับและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก หรือคณะอาจารย์ นักศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งจะสวมปลอกแขนแสดงตัวตน “รถพร้อม คนพร้อม” ในส่วนของการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ พบข้อบกพร่องจำนวน 108 ราย เป็นข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการ ซึ่งได้ให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนตัวผู้ขับรถทันทีจำนวน 16 ราย และเป็นความผิดอื่นๆ ซึ่งไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างปลอดภัยอีกจำนวน 92 ราย ตักเตือนและเปรียบเทียบปรับตามความผิดและบันทึกประวัติที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบกแล้วทุกราย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการตรวจความพร้อมของรถและคนให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดจริงจัง กรณีพบรถคันใดมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง และปรากฏชัดแจ้งว่าการใช้รถคันนั้นต่อไปน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การขนส่ง ให้เปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด และพ่นห้ามใช้รถ พร้อมให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยและนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนนำกลับมาใช้ในการขนส่ง ด้านคนขับหากพบการใช้สารเสพติด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อ่อนเพลีย มีชั่วโมงการทำงานเกินที่กฎหมายกำหนด ดำเนินการเด็ดขาดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องควบคุมการให้บริการ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ห้ามเก็บอัตราค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งโดยเด็ดขาด ขับรถไม่ใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมแนะนำช่องทางการร้องเรียนหากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน โทร.1584 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการติดตามตรวจสอบและแก้ไขทุกประเด็นปัญหาอย่างจริงจัง เด็ดขาด ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น