พาณิชย์ติดตามราคา สินค้าช่วงวันมาฆบูชา

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายก๊าซหุงต้มและตรวจสอบราคาสินค้า ในช่วงวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการจำหน่ายก๊าซในราคาที่กำหนด

สืบเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายพลังงาน มีมติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีทุกประเภทขึ้น 67 สตางค์/กก. จากเดิม 20.29 บาท/กก. เป็น 20.96 บาท/กก. ดังนั้นราคาก๊าซหุงต้มแบบถังขนาด 15 กก.ปรับขึ้น 10 บาท/ถัง ขนาด 48 กก. ถังละ 1,140 บาท , 15 กก.ถังละ 365 บาท , 13.5 กก.ถังละ 343 บาท , 7 กก.ถังละ 187 บาท , 4 กก.ละ 122 บาท

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ได้นำคณะไปตรวจสอบร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม,โรงบรรจุก๊าซหุงต้ม ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูน นำโดยนางสุเกวรินทร์ เหล็กนาพญา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า , นายวรานนท์ ทมิฬศักดิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสนับสนุนการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด บูรณาการร่วมกับศูนย์ชั่งตวงวัด ภาคเหนือ (เชียงใหม่) , ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน , ทหารกองบัญชาการควบคุม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการบรรจุก๊าซหุงต้ม, ตรวจสอบสินค้าให้ปิดป้ายแสดงราคา หรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสมและตรงตามป้ายแสดงราคา โดยศูนย์ชั่งตวงวัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำอุปกรณ์ตรวจวัดน้ำหนักของก๊าซหุงต้ม ชั่งวัดน้ำหนัก ตรวจสอบให้ตรงตามมาตรฐาน และตรวจสอบราคาของก๊าซหุงต้มให้จำหน่ายไม่เกินตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงาน จากการตรวจสอบร้านต่างๆ พบว่า มีก๊าซบรรจุน้ำหนักตรงตามมาตรฐาน และจำหน่ายในราคาที่ควบคุม

ทั้งนี้ผู้จำหน่ายปลีกต้องแสดงราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้ม และค่าบริการขนส่งถึงสถานที่ของผู้ซื้อและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากราคาจำหน่าย และผู้จำหน่ายต้องจำหน่ายให้ตรงกับราคาที่แสดงไว้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือได้รับการร้องเรียนว่าจำหน่ายไม่ตรงตามราคาที่กำหนดไว้ จะถูกดำเนินการคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด มีโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ได้ไปตรวจและแนะนำให้ ร้านจำหน่ายสังฆทาน ห้างสรรพสินค้า ตลาดเทศบาลเมืองลำพูน ให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าหรือบริการในราคาที่เปิดเผยชัดเจน ไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าเกินจริง จำหน่ายสินค้าราคาตรงตามป้าย

สำหรับประชาชนทั่วไป หากพบเห็นการกระทำความผิดหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสของผู้ประกอบการ สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น