บรรยากาศ วันวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์ ใน จ.เชียงใหม่คึกคัก หลายคู่ควงแขนเดินทางท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมที่หลายองค์กรจัดขึ้น เพื่อมอบความสุขให้กับคู่รัก โดยทางสวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมเปิดโชว์ตัวคู่รักแพนด้า ด้วยเค้กน้ำแข็งรูปหัวใจ และ คู่รักยีราฟหวานแหวว พร้อมจัดซุ้มและตกแต่งบรรยากาศรับวันแห่งความรัก ให้นักท่องเที่ยวและคู่รักหนุ่มสาวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่ทางด้านอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ชวนคู่รักถ่ายภาพคอนเซ็ปต์ “ฮัก..กอดรักในสวนสวย” ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบิน
 วันที่ 14 ก.พ.60 สำหรับวัน Valentine หรือวันแห่งความรักนั้น บรรยากาศใน จ.เชียงใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งได้มีหลากหลายองค์กร ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันดังกล่าวขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงเช้า ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์  วิชัยรัตน์ ผอ.สวนสัตว์ พร้อมเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันแห่งความรัก ณ บริเวณส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า โดยได้มีการนำคู่รักแพนด้า “ช่วง ช่วง” และ “หลินฮุ่ย” ออกมาโชว์ที่บริเวณส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง
พร้อมทั้งได้มีการทำเค้กน้ำแข็งเป็นรูปหัวใจ ซึ่งทำมาจากผลไม้หลากหลายของโปรดของแพนด้าคู่รักทั้งสองตัว เพื่อมอบให้กับทั้งคู่ เป็นสัญลักษณ์ในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักในวันนี้ นอกจากนี้ทางสวนสัวต์ยังได้มีการตกแต่งบรรยากาศให้เข้ากับวันวาเลนไทน์ ด้วยลูกโป่งรูปหัวใจที่อบอวนไปด้วยความรัก เพื่อเตรียมไว้ให้สำหรับคู่รัก ครอบ ครัว และเพื่อนสนิท รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพใต้ซุ้มร่วมกันอีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของโซนสัตว์แอฟริกายังได้มีการจัดแสดง “งานวิวาห์ยีราฟ” โดยเจ้าบ่าว “ธันวา” ยีราฟเพศผู้ อายุ 5 ปี ที่ครองตัวเป็นโสดอยู่เพียงตัวเดียวมานาน ในสวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าวิวาห์กับเจ้าสาว “น้องดาว” ยีราฟเพศเมีย อายุ 4 ปี ซึ่งมาจากสวนสัตว์นครราชสีมา เมื่อ “น้องดาว” ยีราฟตัวใหม่ปรับสภาพได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำมาเปิดตัวให้ทางนักท่องเที่ยวและเด็กๆ ได้ชื่นชมเนื่องในวันวาเลนไทน์ ภายในงานวิวาห์ยีราฟ โดยมีการจัดขันโตกผักของโปรดของคู่รักยีราฟ พร้อมทั้งได้มีการตกแต่งบรรยากาศน่ารักน่าสดใสด้วยซุ้มรูปหัวใจ ให้นักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพความรักไว้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย
ขณะที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมต้อนรับวันวาเลนไทน์ ด้วยการถ่ายภาพในคอนเซ็ปต์ “ฮัก..กอดรักในสวนสวย”  ไม่ว่าจะกอดคนรัก กอดเพื่อน กอดต้นไม้ใบหญ้า กอดฟ้า กอดลม หรือกอดตัวเอง ท่ามกลางสวนต่างๆ ที่ประดับประดาไปด้วยไม้ดอกเมืองหนาวหลากสีสัน และตามจุดที่กำหนดไว้ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายมาที่แฟนเพจ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” และแชร์แบบสาธารณะไปยัง Facebook ของผู้ร่วมสนุก สำหรับ 5 รูป ที่มีเพื่อนกดไลค์เยอะที่สุด จะได้รับตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ จากไทยสมายล์ คนละ 1 รางวัล รวมทั้งสุ่มรายชื่อผู้ร่วมสนุก อีก 5 รางวัล รวมจำนวนตั๋วเครื่องบินทั้งหมด 10 รางวัล ประกาศผลทางแฟนเพจอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในวันที่ 16 ก.พ.60 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110-5 หรือติดตามการอัพเดทกิจกรรมในงานได้ทางแฟนเพจ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยว ในเทศกาลวันวาเลนไทน์ภายใน จ.เชียงใหม่นั้น พบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยทางคู่รักหนุ่มสาว รวมทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว ก็อาศัยช่วงวันแห่งความรักนี้ออกท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศที่สวนกุหลาบหลวงห้วยผักไผ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับความงดงาม ของกุหลาบหลากสีสัน นานาพันธุ์ จำนวน 187 สายพันธุ์ อาทิ แดงมินิเจส ลาเวนเดอร์ครีม วาเลนไทน์ เป็นต้น ภายในพื้นที่ตกแต่งสวนสวยงามตามสไตล์อังกฤษ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กุหลาบกำลังออกดอกบานสะพรั่ง
ทาง นายประพันธ์ มาลาศรี หน.ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง กล่าวว่า สวนกุหลาบหลวงแห่งนี้ เพิ่งเริ่มดำเนินการมาได้ไม่นาน โดยได้รวบรวมสายพันธุ์กุหลาบไว้เป็นจำนวนมาก บนพื้นที่ 1 ไร่ และเตรียมขยายพื้นที่ในการปลูกกุหลาบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับสวนกุหลาบหลวงห้วยผักไผ่ เกิดขึ้นจาก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาต่อยอดขยายผลเมื่อครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร แปลงกุหลาบที่บ้านห้วยผักไผ่เมื่อปี พ.ศ.2532
ทรงชื่นชมที่ราษฎรสามารถเพาะพันธุ์กุหลาบกลิ่นหอม ให้มี ดอกใหญ่ สวยงาม พระองค์จึงทรงส่งเสริมให้ราษฎรช่วยกันเพาะขยายเป็นอาชีพเสริม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริงจึงจัดทำเป็นแปลงกุหลาบ พร้อมทั้งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชม อีกทั้งยังมีการเพาะกิ่งพันธุ์จำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น