ตร.เชียงใหม่คุมเข้ม ลุยตรวจรร.ม่านรูด ช่วงวันวาเลนไทน์ ป้องกันกระทำผิด

คุมเข้ม……….พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์ สินธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจค้น พร้อมทั้งลงตรวจสถานบริการม่านรูดย่านชุมชน เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเทศกาลวันวาเลนไทน์

ตำรวจเชียงใหม่คุมเข้มรับ ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ วางมาตรการรักษาความปลอดภัย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว จัดตั้งจุดตรวจค้น พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ลุยตรวจสถานบริการ โรงแรมม่านรูด ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือ ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนไม่ให้กระทำความผิดหรือสิ่งที่ไม่เหมาะสม

เมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 13 ก.พ.60 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ปี 2560 ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ และเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเป็นไปตามกฎหมายข้อบังคับ โดยได้มีการตั้งจุดตรวจตามถนนสายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด รวมทั้งการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน ถึงการปฏิบัติหน้าที่และขอความร่วมมือ ซึ่งผลการดำเนินการเป็นไปอย่างปกติและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้มีการเข้าทำการตรวจตราสถานบริการโรงแรมม่านรูด ในเขตพื้นที่ช้างเผือก และพื้นที่ตัวเมือง พร้อมทั้งได้ทำการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือกับทางผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนไม่ให้กระทำความผิด หรือสิ่งที่ไม่เหมาะสม หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง โดยให้ระมัดระวังป้องกันตนเองอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ทาง พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบาย และได้สั่งการมายังตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินการเข้างวดกวดขันในการรักษาความปลอดภัย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ปี 2560 ซึ่งอาจจะมีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นิสิตนักศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มักจะถือโอกาสนี้มากระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้มีความห่วงใย จึงได้มีการวางมาตรการในการเฝ้าดูแล รักษาความสงบ และความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

ซึ่งในการดำเนินการเบื้องต้นนั้นก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสถานีวิทยุของตำรวจ ซึ่งมีข้าราชการตำรวจเป็นผู้จัด รวมไปถึงทางโซเชียลมีเดีย และสื่ออื่นๆ นอกจากนี้ยังได้มีการออกหนังสือแจ้งขอความร่วมมือกับทางสถานบริการและโรงแรมต่างๆในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เยาวชน หรือเด็กนักเรียน และผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มาใช้บริการในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ประกอบกับเป็นนโยบายที่ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญ ในการป้องปรามเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในการปฏิบัติหน้าที่นี้ ในวันนี้ได้มีการดำเนินการอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งหมดในพื้นที่ทั้งหมด 38 สถานี 25 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการป้องปรามทั้งก่อนขณะและหลังในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้

รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับในการปฏิบัติการวันนี้พบว่า ทางประชาชนและสถานบริการทุกแห่งได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และพบว่าสถานการณ์ยังเป็นปกติ จึงอยากขอความร่วมมือผู้ปกครอง สถานศึกษา สถานบริการ สถานประกอบธุรกิจ โรงแรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนไม่ให้กับกระผิด หรือสิ่งที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งเตือนภัยเด็กและเยาวชนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง โดยให้ระมัดระวังป้องกันตนเองอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นวัน Valentine หรือวันแห่งความรักนั้น บรรยากาศในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปอย่างคึกคักซึ่งได้มีหลากหลายองค์กร ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันดังกล่าวขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงเช้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยทางเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันแห่งความรัก ณ บริเวณส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า โดยได้มีการนำคู่รักแพนด้า “ช่วง ช่วง” และ “หลินฮุ่ย” ออกมาโชว์ที่บริเวณส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง พร้อมทั้งได้มีการทำเค้กน้ำแข็งเป็นรูปหัวใจซึ่งทำมาจากผลไม้หลากหลายของโปรดของแพนด้าคู่รักทั้งสองตัว เพื่อมอบให้กับทั้งคู่ เป็นสัญลักษณ์ในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักในวันนี้

นอกจากนี้ทางสวนสัตว์ยังได้มีการตกแต่งบรรยากาศให้เข้ากับวันวาเลนไทน์ด้วยลูกโป่งรูปหัวใจที่อบอวลไปด้วยความรักเพื่อเตรียมไว้ให้สำหรับคู่รัก ครอบครัว และเพื่อนสนิท รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพใต้ซุ้มร่วมกันอีกด้วย

ในส่วนของโซนสัตว์แอฟริกายังได้มีการจัดแสดง “งานวิวาห์ยีราฟ” โดยเจ้าบ่าว “ธันวา” ยีราฟเพศผู้ อายุ 5 ปี ที่ครองตัวเป็นโสดอยู่เพียงตัวเดียวมานานในสวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าวิวาห์กับเจ้าสาว “น้องดาว” ยีราฟเพศเมียชื่อดาว อายุ 4 ปี ซึ่งมาจากสวนสัตว์นครราชสีมา เมื่อ “น้องดาว” ยีราฟตัวใหม่ปรับสภาพได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำมาเปิดตัวให้ทางนักท่องเที่ยวและเด็กๆได้ชื่นชมเนื่องในวันวาเลนไทน์ภายในงานวิวาห์ยีราฟ โดยมีการจัดขันโตกผักของโปรดของคู่รักยีราฟ พร้อมทั้งได้มีการตกแต่งบรรยากาศน่ารักสดใสด้วยซุ้มรูปหัวใจไว้ให้นักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพความรักไว้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย

ขณะที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมต้อนรับวันวาเลนไทน์ ด้วยการถ่ายภาพในคอนเซ็ปต์ “ฮัก..กอดรักในสวนสวย” ไม่ว่าจะกอดคนรัก กอดเพื่อน กอดต้นไม้ใบหญ้า กอดฟ้า กอดลม หรือกอดตัวเอง ท่ามกลางสวนต่างๆ ที่ประดับประดาไปด้วยไม้ดอกเมืองหนาวหลากสีสันและตามจุดที่กำหนดไว้ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายมาที่แฟนเพจ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” และแชร์แบบสาธารณะไปยัง Facebook ของผู้ร่วมสนุก สำหรับ 5 รูปที่มีเพื่อนกดไลค์เยอะที่สุด จะได้รับตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ จากไทยสมายล์ คนละ 1 รางวัล รวมทั้งสุ่มรายชื่อผู้ร่วมสนุกอีก 5 รางวัล รวมจำนวนตั๋วเครื่องบินทั้งหมด 10 รางวัล ประกาศผลทางแฟนเพจอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในวันที่ 16 ก.พ.60 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110-5 หรือติดตามการอัพเดทกิจกรรมในงานได้ทางแฟนเพจ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวในวันเทศกาลวาเลนไทน์ภายในจังหวัดเชียงใหม่นั้นพบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยทางคู่รักหนุ่มสาว รวมทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวก็อาศัยช่วงวันแห่งความรักนี้ออกท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศที่สวนกุหลาบหลวงห้วยผักไผ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับความงดงามของกุหลาบหลากสีสันนานาพันธุ์ จำนวน 187 สายพันธุ์ อาทิ แดงมินิเจส ลาเวนเดอร์ครีม วาเลนไทน์ เป็นต้น ภายในพื้นที่ตกแต่งสวนสวยงามตามสไตล์อังกฤษ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กุหลาบกำลังออกดอกบานสะพรั่ง

โดยทาง นายประพันธ์ มาลาศรี หัวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง กล่าวว่า สวนกุหลาบหลวงแห่งนี้เพิ่งเริ่มดำเนินการมาได้ไม่นาน โดยได้รวบรวมสายพันธุ์กุหลาบไว้เป็นจำนวนมาก บนพื้นที่ 1 ไร่ และเตรียมขยายพื้นที่ในการปลูกกุหลาบ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับสวน กุหลาบหลวงห้วยผักไผ่ เกิดขึ้นจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริงได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาต่อยอดขยายผลเมื่อครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร แปลงกุหลาบที่บ้านห้วยผักไผ่เมื่อปี พ.ศ.2532 ทรงชื่นชมที่ราษฎรสามารถเพาะพันธุ์กุหลาบกลิ่นหอม ให้มีดอกใหญ่ สวยงาม พระองค์จึงทรงส่งเสริมให้ราษฎรช่วยกันเพาะขยายเป็นอาชีพเสริม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริงจึงจัดทำเป็นแปลงกุหลาบ พร้อมทั้งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชม อีกทั้งยังมีการเพาะกิ่งพันธุ์จำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น