ตร.ซิวยกแก๊ง ฉกรถจยย. ดัดแปลงขาย ไปซื้อยาบ้าเสพ เตือนปชช.ระวัง

คุมตัวทำแผน…………พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาทั้งหมดก่อเหตุขโมยมา จำนวน 4 คัน

ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาแก๊งตระเวนลักรถ จยย. ทำแผนรับสารภาพ หลังก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เผยอาศัยช่วงเจ้าของรถเผลอเสียบกุญแจทิ้งไว้ที่รถก่อเหตุ แล้วนำรถมาดัดแปลงสภาพก่อนนำไปขาย หาเงินซื้อยาบ้ามาเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสืบหาเบาะแสอยู่นานจนเจอตัว บุกจับได้คาห้องพัก ขณะกำลังช่วยกันดัดแปลงสภาพรถ ด้านตำรวจฝากเตือนประชาชนจอดรถด้วยความระมัดระวังอย่าเสียบกุญแจทิ้ง อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหล่านี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 60 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัวผู้ต้องหา ซึ่งประกอบด้วย นายมานะ หรือต๋อง สอนไว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 284/4 หมู่ที่ 8 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร, นายจ๋อม แสงเรือนคำ อายุ 30 ปี เชื้อชาติไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมาร์, นายวัน ไม่มีนามสกุล อายุ 34 ปี ที่อยู่ 135/3 หมู่ที่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และ นางสร้อยเครือ สมบุญ อายุ 31 ปี 31/11 หมู่ที่ 3 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาทั้งหมดก่อเหตุขโมยมา จำนวน 4 คัน, แผ่นป้ายทะเบียน, ปืน บีบีกัน สีดำ จำนวน 1 กระบอก, ยาบ้ารวมจำนวนทั้งสิ้น 461 เม็ด โดยทางผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุในหลายจุด

ทั้งนี้ทาง พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักทรัพย์รถ จักรยานยนต์ ยามาฮา มีโอ สีแดง บริเวณ หอพักวาริน ม.4 (บ้านท่าเกวียน) ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พื้นที่ สภ.แม่โจ้ และ ต่อมาคนร้ายได้มาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.สันกำแพง อีกจำนวน 3 ราย โดยพฤติการณ์ของคนร้ายได้อาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายจอดรถและเสียบกุญแจคาไว้ จึงได้ลักรถและหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกัน จึงได้ดำเนินการเร่งติดตามสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่า ในรายคดีของ สภ.แม่โจ้ คนร้ายเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเข้ามาก่อเหตุ โดยมี นายมานะ หรือต๋อง (ผู้ต้องหาที่ 1) เป็นผู้ขับขี่ และ นางสร้อยเครือ (ผู้ต้องหาที่ 4) เป็นคนซ้อนท้าย โดยขับสำรวจดูรถในสถานที่ต่างๆ เมื่อพบรถที่จอดเสียบกุญแจคาไว้ นายมานะ หรือต๋อง (ผู้ต้องหาที่ 1) จะลงจากรถมาทำการขโมยแล้วเอารถขับหลบหนีไป นอกจากนี้ นายมานะ หรือต๋อง (ผู้ต้องหาที่ 1) ยังได้ลงมือก่อเหตุในท้องที่ สภ.สันกำแพง ทั้ง 3 ราย โดยพฤติการณ์จะเดินสำรวจดูรถที่ผู้เสียหายเผลอจอดรถเสียบกุญแจคาไว้ เมื่อสบโอกาสก็จะเข้าไปทำการขโมยก่อนจะขับรถที่ขโมยมาได้หลบหนีไป

ทั้งนี้จากการสืบสวนติดตามเบาะแสของคนร้ายของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่อยมา จนกระทั่งในวันที่ 17 ก.พ. 60 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า นายมานะ หรือต๋อง (ผู้ต้องหาที่ 1) ได้หลบหนีมาพักอาศัยกับผู้ นายจ๋อม แสงเรือนคำ (ต้องหาที่ 2) ที่หอพักในหมู่บ้านร้องขุ่น ต.สันกลาง โดย นายมานะ หรือต๋อง (ผู้ต้องหาที่ 1) จะนำจักรยานยนต์ที่ร่วมลักมามาเก็บซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักดังกล่าว และดัดแปลง สภาพรถโดยพ่นสีอื่นทับสีเดิม และบางคันได้นำไปจำหน่าย นอกจากนี้ยังสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบในบริเวณห้องพักดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังร่วมกันดัดแปลงสภาพรถอยู่บริเวณหน้าห้องพัก เมื่อเห็นเจ้าพนักงานตำรวจได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องพัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด และจากการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก็พบของกลางยาเสพติดอยู่ในร่างกาย และขณะระหว่างทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 นั้น นางสร้อยเครือ (ผู้ต้องหาที่ 4) ได้เดินมายังหอพักดังกล่าว จึงถูกตรวจค้นในกระเป๋าสะพายก็พบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่เช่นกัน จุงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.สันกำแพง

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับสารภาพว่า ของกลางยาบ้าและอุปกรณ์ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้นั้นเป็นของกลางที่ได้ลงมือก่อเหตุขโมยมาจริง โดยจะอาศัยขับรถตระเวนไปตามที่ต่างๆ เมื่อเจอเหยื่อหรือรถที่ลืมเสียบกุญแจคาไว้ก็จะลงมือก่อเหตุ จากนั้นเมื่อได้รถจักรยานยนต์มาก็จะนำมาดัดแปลงสภาพเพื่อไม่ให้จำได้ แล้วจึงนำไปขาย ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาเสพติด มาเสพมั่วสุมที่ห้องพักดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนด้วยว่าอย่าประมาทเวลาจอดรถตามสถานที่ต่างๆ ควรตรวจสอบให้ดีเพื่อความปลอดภัย ไม่ควรเสียบกุญแจรถทิ้งไว้แม้ว่าจะลงไปทำธุระแค่ไม่นาน เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้สามารถลงมือก่อเหตุได้ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยกับตัวท่านเอง

ร่วมแสดงความคิดเห็น