จ่อทะลัก 500 ล้าน ยาบ้าเข้าไทย แม่ทัพภาค 3 จัดประชุมเข้ม ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นเหนือ จัดประชุมใหญ่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง ติดตามและรับฟังผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังห้วงเดือนที่ผ่านมามีการปราบปรามจับกุมพ่อค้ารายใหญ่และยึดของกลางยาเสพ   ติดล็อตใหญ่ เผยประเทศเพื่อนบ้านมีการกดดันชนกลุ่มน้อย  ทำให้มีการเร่งระบายยาเสพติดมากขึ้น พร้อมทั้งกำชับทุกฝ่ายบูรณาการความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามอย่างเข้มข้น ชี้มียาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าที่จ่อทะลักเข้าไทยอีกมหาศาล กว่า 500 ล้านเม็ด ส่วนไอซ์ และเฮโรอีนคาดลำเลียงเป็นทางผ่านก่อนไปสู่ประเทศอื่นๆเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.พ. 60 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส พล.ท.วิจักขฐ์ สิริพรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) เป็นประธานในการจัดประชุมเพื่อรับฟัง และติดตามสถานการณ์ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ชายแดนเหนือ ครั้งที่ 1/60 โดยมี นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พล.ท.ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3/ผบ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.), พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการแทน รอง ผบช.ภ. 5 และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคเหนือ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการ ฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

โดยทาง พล.ท.วิจักขฐ์ สิริพรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) เปิดเผยว่า ในการจัดประชุมวันนี้เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมานั้น จะทราบกันดีว่ายาเสพติดที่ทะลักเข้ามาในพื้นที่ และได้มีการดำเนินการจับกุมได้นั้นมีจำนวนมาก หรือเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งสังเกตุได้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทุกครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นการบูรณาการด้านการข่าวของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นของ ตำรวจ ทหาร หรอ ป.ป.ส. และแสดงให้เห็นว่าความต้องการในการใช้ยาเสพติดในประเทศไทย ยังคงมีสูงอยู่

รวมทั้งรายได้ในการขนก็เป็นสิ่งจูงใจให้นักขนหน้าใหม่ หรือในกลุ่มของชนเผ่า กล้าที่จะลักลอบขนเข้ามาในปริมาณที่มีจำนวนมาก อย่างเช่น การจับกุมครั้งล่าสุด จะเห็นได้ว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้นั้นเป็นล็อตใหญ่ยาบ้า ประมาณ 1 ล้านเม็ด เฮโลอีนเกือบ 200 กก. และไอซ์อีกประมาณ เกือบ 100 กก. ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการด้านการข่าวที่เกิดประสิทธิผล ดังนั้นจึงได้นำเอาตัวอย่างในช่วงที่ผ่านมา มาเป็นประเด็นในการประชุมพูดคุยกันในวันนี้ เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุม หรือมาตรการด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในระยะนี้ พบว่าในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลังจากที่ทางท่าน ผบ.ทบ.ได้มีการพูดคุยกับทางท่าน ผบ.ทหารสูงสุดของพม่า ได้มีการตกลงกันไว้ว่าจะมีการร่วมมือกันในการปราบปราม โดยในการพูดคุยในครั้งนั้นมีประเด็นสำคัญเกี่ยวข้องกับพื้นที่ภาคเหนืออยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ ร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดทั้ง 2 ฝ่าย และอีกประเด็นคือการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

ฉะนั้นผลจากการพูดคุยกันของทางผู้ใหญ่ก็ส่งมาถึงการปฏิบัติ โดยมีความร่วมมือระหว่าง ป.ป.ส. ตำรวจภูธรภาค 5 และ ภาค 6 และทาง ศอ.ปส.ชน. แล้วจึงเกิดเป็นผลงานขึ้นมาหลาย ๆ ประการ หลังจากได้มีการพูดคุยกับผู้นำของพม่ามาแล้ว ฉะนั้นทางตนได้คาดเดาไว้ว่าทางประเทศเพื่อนบ้าน คงได้มีการกดดันชนกลุ่มน้อย จึงทำให้ต้องมีการเร่งระบายยาเสพติดออกมา ที่ปัจจุบันทราบโดยทั่วไปแล้วว่า จะรออยู่ตามตะเข็บชายแดนไทยค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม จากการคาดหมายของทางเจ้าหน้าที่ขณะนี้ คาดว่าน่าจะมียาบ้าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านเม็ด ที่กำลังจ่อเข้ามาในพื้นที่ โดยจะสังเกตุได้ว่า จากลักษณะของหีบห่อของเฮโรอีนกับไอซ์นั้น ไม่น่าที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย เนื่องจากมีการแพ็คสำหรับการส่งออกข้ามแดน ซึ่งน่าจะนำไปใช้ในประเทศโซนอื่นๆ แต่ในส่วนของยาบ้านั้นยังเป็นยาเสพติดยอดนิยมของวัยรุ่นไทย หรือคนไทยอยู่

ส่วนไอซ์กับเฮโลอีนนั้น น่าจะมีการลักลอบนำเข้ามาแล้วผ่านส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีความต้องการอยู่ ซึ่งในการประชุมวันนี้ก็จะมีการพูดคุยกันถึงมาตรการเสริมว่า จะมีการดำเนินการอย่างไร รวมทั้งประเด็นในเรื่องของมาตรการ การข่าวที่ได้ผลมาแล้ว จะทำอย่างไรให้ได้ผลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และอีกประเด็นคือ จะบูรณาการประสานงานด้านการปราบปรามกันอย่างไร ที่จะไม่ให้สิ่งของผิดกฎหมายเหล่านี้ ทะลักเข้าไปในเขตภายในมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนเหนือ พบว่า แหล่งผลิตยาเสพติดในประเทศ เพื่อนบ้านยังคงมีการผลิตยาเสพติดประเภทยาบ้า , ไอซ์ และเฮโรอีน ได้เป็นจำนวนมาก เพราะสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้น ส่งเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจพบว่าปี 60 มีพื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น การลักลอบโดยกลุ่มชนเผ่าที่อยู่ตามแนวชายแดน ยังเป็นกลุ่มลำเลียงเข้าเขตไทยเป็นหลัก แม้ว่าในปัจจุบันยาเสพติดจากแหล่งผลิต จะมีทิศทางไปทางตะวันออกเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณยาเสพติด ที่เข้าทางภาคเหนือยังคงมีอยู่จำนวนมาก เพราะกลุ่มขบวนการสามารถผลิตได้ตามต้องการของผู้เสพ และ แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติด คาดว่าแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน จะผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนยาเสพติดที่ เจ้าหน้าที่จับกุมได้เป็นจำนวนมาก พื้นที่การลักลอบลำเลียงเข้าเขตไทย ที่สำคัญบริเวณ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ตลอดแนวไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และบริเวณท่าข้ามในลำน้ำแม่โขง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ควบคุมอำนวยการ ประสานงานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน , จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ห้วงตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 ถึง เดือน ม.ค. 2560 สรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ การป้องกัน ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีการจัดระเบียบสังคมควบคุมพื้นที่เสี่ยง จำนวน 285 ครั้ง สั่งปิดสถานประกอบการ จำนวน 7 แห่ง และ ในพื้นที่ จ.เชียงราย ประกาศรับรอง “ครัวเรือนสีขาว ปลอดยาเสพติด” จำนวน 2,080 ครัวเรือน

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่บ้านห้วยส้าน เนื่องจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุม นายเล่าต๋า แสนลี่ พร้อมพวก ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2559      ที่ปั้มน้ำมันบ้านห้วยส้าน หมู่ 10 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ได้ร่วมกันจัดกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น ยึดทรัพย์ กดดัน สลายอิทธิพลของกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ในหมู่บ้านห้วยส้าน และใกล้เคียง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ปัจจุบันราษฎรเริ่มหันมาให้ความร่วมมือกับฝ่ายรัฐมากขึ้น แต่การปฏิบัติร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ต้องดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อขจัดอิทธิพลของกลุ่มเครือข่ายให้หมดสิ้น พร้อมกับสร้างหมู่บ้านห้วยส้านให้เป็นชุมชนเข้มแข็งต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น