เลื่อนเที่ยวบิน หนีไฟป่า มส.ฟ้าหลัว สถานการณ์ยังน่าห่วง พบลอบเผาอีกหลายจุด

หนีไฟป่า…………หมอกควันไฟป่าเริ่มปกคลุมเมืองแม่ฮ่องสอน สายการบินหลายสายพากันเลื่อนเที่ยวบินหนีหมอกควันไฟป่าในช่วงเช้า และเปลี่ยนตารางการบินเป็นช่วงบ่ายแทน ล่าสุดสถานการณ์ยังคง น่าเป็นห่วงมีการลอบจุดไฟเผาป่าในหลายพื้นที่

หมอกควันพิษคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนส่อวิกฤติ สายการบินพากันเลื่อนเที่ยวบินหนีหมอกควันไฟป่าในช่วงเช้า และเปลี่ยนตารางการบินเป็นช่วงบ่ายแทน กานต์แอร์ เปลี่ยนเครื่องบินจาก 66 ที่นั่ง เป็น 12 ที่นั่งและจัดเที่ยวบินตามจำนวนผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งไว้แล้ว แก้ปัญหาบินไม่ได้ ส่วนสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงมีการลอบจุดไฟเผาป่าในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณป่าติดทางหลวง และ เทือกเขาสูงชันในป่าลึก ผู้ว่าฯ เรียกหัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้านประชุมด่วน หาแนวทางแก้ไขปัญหา สั่งเด็ดขาดห้ามเผา หากพบเกษตรกรรายใดเผาไร่ลามเข้าป่าสั่งจับกุมมีโทษหนัก

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 นางกิ่งจันทร์ ไข่แก้ว รักษาการ ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ปกคลุมท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน จนส่งผลกระทบต่อการบิน ทำให้สายการบินต่างๆ ที่บรรทุกผู้โดยสารจากจังหวัดเชียงใหม่ มายัง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการบินและยกเลิกเที่ยวบินดังนี้ สายการบินกานต์แอร์ ได้เปลี่ยนแบบอากาศยานจาก ATR-77 ขนาด 66 ที่นั่งเป็นแบบ Cessna ขนาด 12 ที่นั่ง โดยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้เพียงพอกับผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้า สำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ ได้ทำการปรับเปลี่ยนเวลาจากเดิมออกจากแม่ฮ่องสอน จากเวลา 10.30 น.เป็นเวลา 13.00 น. เนื่องจากช่วงบ่าย ทัศนวิสัยในการมองเห็นของนักบินจะดีขึ้นกว่า ช่วงเช้า

นายสุนทร กันทะมาลา นักปฏิบัติการอุตุนิยมวิทยา สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สภาพอากาศในเช้าวันนี้ อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 14.5 องศา ทัศนวิสัยในการมองเห็น เมื่อ 07.00 น. 1,500 เมตร เวลา 08.00 น. 2,000 เมตร ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์สำหรับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ ที่ต้องการทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศที่ 5,000 เมตรขึ้นไป สำหรับเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก แบบ Cessna ขนาด 12 ที่นั่ง สามารถบินขึ้นลงได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการบินที่สูงขึ้นด้วย

โดยในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน รักษาการ ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG237 เชียงใหม่–แม่ฮ่องสอน ออกจากเชียงใหม่เวลา 13:45 น. ถึงแม่ฮ่องสอน เวลา 14:30 น. และเที่ยวบินที่ PG238 แม่ฮ่องสอน–เชียงใหม่ ออกจากแม่ฮ่องสอน เวลา 15:00 น. ถึงเชียงใหม่เวลา 15:40 น. สามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติ เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศเกิน 5 กม.

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ด้านไฟป่าในหลายพื้นที่ มีรายงานว่า ยังคงมีการลอบเผาป่าในพื้นที่บริเวณเทือกเขาสูงชันห่างไกล ในป่าลึกที่หน่วยดับไฟป่า ไม่สามารถเดินทางเข้าถึงเพื่อดับไฟป่าที่เกิดขึ้นได้ ส่วนไฟป่าบริเวณข้างทางหลวง สามารถดับได้ และมีการดับไปแล้วหลายจุดหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี

นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติทุกหน่วยงาน ให้เร่งดำเนินการตามมาตรการดังต่อไปนี้คือ 1. ประชาสัมพันธ์งดเผาเด็ดขาดผ่านกลไกในหมู่บ้านคือ ผู้นำ อาสาสมัคร ที่ตั้งขึ้น ไปยังประชาชนให้ทั่วถึง และทำต่อเนื่อง 2. หากมีการเผาต้องแจ้งก่อน หากไม่แจ้งใช้กฎหมู่บ้านปรับนำเงินเข้ากองกลางของหมู่บ้าน แต่ ถ้าเผาแล้วเกิดลุกลามให้ดำเนินคดี เป็นตัวอย่าง 3. สั่งการชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวน ตรวจตราดูแล พื้นที่ถี่ขึ้น 4. หากเกิดไฟป่า เมื่อรับทราบหรือรับแจ้ง ต้องสนธิกำลังไประงับยับยั้งทันที 5.นายอำเภอต้องประชุม ติดตาม ประสานงาน เพื่อให้ดำรงการติดต่อสื่อสารกับทุกหน่วยได้ตลอดเวลา 6. ทบทวนแผนเพื่อนำไปใช้ ไม่ให้เป็นเสือกระดาษ

ด้านนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมประชุม

จากการสรุปการประชุมพบว่า ไฟป่าเกิดจากการลอบเผา จึงได้มีมาตรการเด็ดขาดกับผู้ที่ฝ่าฝืน ตามคำสั่ง 60 วันอันตราย ตั้งแต่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2560 จะมีการห้ามเผาโดยเด็ดขาด โดยจะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวน หากพบไฟป่าเกิดติดพื้นที่การเกษตรของใคร จะดำเนินการควบคุมเจ้าของที่มาสอบสวนเอาผิดรวมถึงเรียกตัวผู้ใหญ่บ้านมาสอบสวนอีกด้วย สำหรับไฟป่าที่เกิดขึ้นและมีการคุกรุ่นก่อควันไฟสะสม จะต้องเข้าไปทำการดับไฟให้สนิทในทุกจุด ส่วนกลุ่มพรานล่าสัตว์หากจับกุมได้จะดำเนินคดีอาญาโทษสูงสุด เนื่องจากกลุ่มพรานส่วนใหญ่ จะลอบเผาป่าในป่าลึกทำให้เข้าไปดับยากลำบาก ส่วนการเผาไร่เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกก่อนต้นฤดูฝน ต้องขออนุญาตและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมทุกครั้ง

ด้านสมาชิกไลน์กลุ่มของศูนย์ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ได้ให้กำลังใจ ต่อหัวหน้าส่วนราชการ ในกลุ่มว่า จากการตรวจนับจุดความร้อนรายวันจะเห็นว่าจุดความร้อนของจังหวัดเรามีจำนวนจุดมากกว่าปีที่แล้วไปเยอะพอสมควร..ซึ่งเราตั้งเป้าว่าต้องลดลง..แต่ก็ยังมีเวลาต่อสู้กับมันไปอีกสองเดือน..สองเดือนนี้เราต้องร่วมกันสู้ให้ได้ ขอเรียนว่าต่อไปสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นทุกวัน..ความร่วมมือของพี่น้องแม่ฮ่องสอนเท่านั้นจึงจะช่วยกันได้ต้องเร่งขอความร่วมมือให้มากขึ้นไปอีกครับ…สำหรับค่า pm10 ที่เกินค่ามาตรฐานไปสองวันนั้นขอเรียนว่าเราไม่ใช่เกินสถานีเดียวหรอกครับ มีเพื่อนที่เกินล่วงหน้าเราไปแล้ว 3 วัน แต่ต่อไปเราต้องช่วยๆกันนะ

ขณะที่สมาชิกโชเชียล เฟซบุ๊ค มีความเห็นต่างจากผู้บริหารของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งระบุว่าได้อะไร จากคำสั่ง “ชิงเผา”เอาสมองด้านไหนคิด 1. ควันไฟเต็มเมือง อีกกี่วันจะหาย (ไม่ชิงเผา มันก็มีปกติ ทุกปี), 2. ไฟใหม้ใบตองตึงแห้งที่หล่น (ชิงเผามันจะหล่นมากขึ้น), 3. เก็บไข่มดแดงได้ง่าย (ชิงเผาเดินเข้าออกป่าได้สบาย)

ผลจากคำสั่งให้ชิงเผานั้น คือ 1. สายการบินที่อัตคัดอยู่แล้ว ยกเลิกเที่ยวบิน เพราะมองไม่เห็นสนามบิน , 2. ชาวบ้านที่เก็บใบตองแห้งมาตับเป็นตองมุงหลังคา ไม่มีตองให้เก็บอีกแล้ว ชิงเผาไปหมดแล้ว แล้วเดือนหน้าจะเอาเงินที่ไหนมาบวชส่างลอง และ 3. มดแดงตายไหม้หมดทั้งรัง อาชีพเก็บไข่มดแดงมาขายเอาเงินยาใส้ หมดไปแล้ว ปีนี้ รอปีหน้าแระกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น