สนามบิน ชม. เตรียมผุดอาคารที่จอดรถใหม่

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมผุดอาคารที่จอดรถหลังใหม่ภายในปีนี้ รองรับปริมาณรถยนต์ได้ 800 คัน ส่วนโครงการพัฒนาตามแผนแม่บท ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดเริ่มลงมือก่อสร้างได้เร็วสุดในปี 2563

นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 29 ปี การดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 6 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ได้รับโอนกิจการจากกรมการบินพาณิชย์ มาอยู่ในความดูแล ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 และแปรสภาพเป็น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 โดยได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการในทุก ๆ ด้าน ภายใต้ค่านิยมหลักของ ทอท. (Core Value) ใน 5 ด้าน ได้แก่ ให้ใจ ให้บริการด้วยใจ เหนือความคาดหมาย (Service Minded) ,มั่นใจ เป็นเลิศในมาตรฐานความปลอดภัย (Safety & Security) ,ร่วมใจ การรวมพลังให้เกียรติทุกความเห็น (Teamwork) ,เปิดใจ การพัฒนาไม่หยุดยั้ง (Innovation),ภูมิใจ การยึดมั่นผลประโยชน์องค์กร (Integrity)

ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี แต่นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ล่าสุดในปี 2559 (มกราคม-ธันวาคม 2559 ) มีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการมากกว่า 9.45 ล้านคน ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ขยายพื้นที่การให้บริการ และบริหาร14:01 1/3/2560จัดการเส้นทางเดินของผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากที่สุด ภายใต้คุณภาพการให้บริการในระดับสากลและมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงที่ 1 เป็นการรวมแผนพัฒนาระยะสั้นกับระยะกลาง (ปี 2559-2568) มีเป้าหมายที่จะรองรับปริมาณจราจรทางอากาศในปี 2573 เพื่อรองรับผู้โดยสารประมาณ 18 ล้านคน และแผนพัฒนาช่วงที่ 2 ระยะยาว (ปี 2569-2573) มีเป้าหมายที่จะรองรับ ปริมาณจราจรทางอากาศในปี 2578 เพื่อรองรับผู้โดยสารประมาณ 20 ล้านคน นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA (Environmental Impact Assessment) โดย ทอท.ได้ว่าจ้างบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ใช้ระยะเวลาในการจัดทำรายงาน EIA และขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีประมาณ 2 ปี โดยจะเริ่ม รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครั้งแรกในช่วงกลางเดือนมีนาคมศกนี้ จากนั้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างตามแผนพัฒนาได้ในปี 2562 ซึ่งจะประกอบด้วยงานที่สำคัญ อาทิ
1. งานก่อสร้างปรับปรุงทางขับ (Taxiway) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway)
2. งานก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยานบนพื้นที่ทางขับขนานเดิม พร้อมทั้งปรับปรุงลานจอด อากาศยานเดิมให้สามารถรองรับอากาศยานได้รวม 31 ลำ
3. งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 7 ล้านคนต่อปี มีพื้นที่ประมาณ 78,000 ตารางเมตร งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ พร้อมทั้งปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเดิม และก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลังเดิมโดยมีส่วนต่อขยายของอาคารอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารเดิม ทำให้อาคารมีขีดความสามารถ ในการรองรับผู้โดยสารภายในประเทศได้ไม่น้อยกว่า 11 ล้านคนต่อปี มีพื้นที่ประมาณ 37,000 ตารางเมตร พร้อมทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์ และลานจอดรถยนต์ให้สามารถรองรับได้ 300 คันสำหรับรถขนส่งสาธารณะที่มาให้บริการ
4. งานปรับปรุงระบบถนนเส้นทางเข้าออกท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อใช้รองรับอาคารผู้โดยสาร ที่ก่อสร้าง และปรับปรุงตามแผนพัฒนา และให้เกิดประสิทธิภาพในระบบสัญจรบริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่
5. งานก่อสร้างอาคารจอดรถผู้โดยสารภายในประเทศ และสำนักงานสายการบิน ตั้งอยู่บริเวณ ฝั่งตรงข้ามอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เป็นอาคารจอดรถยนต์ 8 ชั้นสามารถรองรับปริมาณรถยนต์ได้ประมาณ 2,500 คัน พร้อมกับก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 8,000 ตารางเมตร

นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปี 2559 ดังนี้ 1.ปริมาณการจราจรทางอากาศ (มกราคม-ธันวาคม 2559) – มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้น-ลง 69,202 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 8.39 มีสายการบิน ที่บินประจำภายในประเทศ จำนวน 8 สายการบิน ทำการบินใน 18 เส้นทาง และสายการบินระหว่างประเทศ จำนวน 24 สายการบิน ทำการบินใน 19 เส้นทาง มีเที่ยวบินเฉลี่ย 215 เที่ยวบินต่อวัน,- มีจำนวนผู้โดยสาร 9.45 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 เกือบร้อยละ 13 เฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศมีประมาณ 2.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้โดยสารชาวจีนถึงกว่า 1.24 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณร้อยละ 10 การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารชาวจีนดังกล่าวนำมาซึ่งความเติบโต ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศชาติ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่จำเป็นต้องขยายเวลาให้บริการในบางช่วงเวลาโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน และสงกรานต์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของชุมชนที่อาศัยโดยรอบและในแนวขึ้นลงของอากาศยานบ้าง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้องขออภัยที่ได้สร้างผลกระทบดังกล่าวให้แก่ชุมชนรอบข้าง อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็น ต้องเพิ่มเที่ยวบินนอกเวลาทำการปกติ ท่าอากาศยานเชียงใหม่จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า,- มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 18,512 ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2558

2. ผลประกอบการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ในปีงบประมาณ 2559 ว่ามีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,018.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.68 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2558 มีกำไรสุทธิ 984.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.24 โดยเป็นรายได้จากการบินประมาณร้อยละ 70 และอีกประมาณร้อยละ 30 เป็นรายได้จากการประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์

สำหรับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของ ทอท.นั้น ในปี 2559 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับชุมชน รวมทั้งให้ความร่วมมือ ตลอดจนให้การสนับสนุนกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ สถานศึกษา ชุมชนท้องถิ่น และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนน้ำดื่ม การสนับสนุนงบประมาณจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ และการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ สำหรับจัดกิจกรรมของท้องถิ่นและชุมชนเป็นต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น