(คลิป) หมอกควัน เริ่มปกคลุมพื้นที่ ตัวเมืองเชียงใหม่ จังหวัดขอความร่วมมือ งดการเผาอย่างจริงจัง

หมอกควันเริ่มปกคลุม พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว ดอยสุเทพฯ เริ่มมองไม่เห็นทิวทัศน์ในตัวเมือง ขณะที่ค่าฝุ่นละอองเริ่มน่าห่วง ด้านจังหวัดขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลพื้นที่ห้ามเผา พร้อมกำชับให้ทุกอำเภอเน้นการทำแนวกันไฟ และแจ้งเบาะแสผู้ลักลอบเผาป่า

วันที่ 3 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควัน เริ่มเข้าปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดช่วงสายวันนี้ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางขึ้นไปสังเกตุการณ์พบว่า จากตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อมองไปยังด้านทิศตะวันตกของเมืองพบว่ามีหมอกควันสะสมหนาตัวขึ้น จนทำให้เห็นดอยสุเทพ ได้เลือนลางเท่านั้น ซึ่งปกติจะเห็นชัดเจนจนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ และตัวองค์พระธาตุอย่างชัดเจนเมื่อสภาพอากาศปกติ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งดัชนีวัดคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงของความผิดปกติของสภาพอากาศ

ขณะที่ สังเกตุได้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งที่ต้องออกมาทำกิจกรรม โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถ จ.ย.ย.ก็เริ่มหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพื่อป้องกันสุขภาพจากฝุ่นควัน แต่โดยภาพรวมยังถือว่าสภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ คุณภาพอากาศยังไม่เกินค่ามาตรฐาน  ซึ่งล่าสุด เว็ปไซด์ air4thai.pcd.go.th ของสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ จากสถานีตรวจวัดที่ให้ข้อมูลรายชั่วโมง เมื่อเวลา 12.00 น. ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ สูงสุดอยู่ที่ 107 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับปานกลาง ไม่เกินค่ามาตรฐาน (120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) ส่วนสถานีอื่น และเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ให้ข้อมูลเฉลี่ยรายวัน ค่า PM10 จะอยู่ระหว่าง 60 – 85 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ GISTDA ประจำศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จ.เชียงใหม่ รายงานสถานการณ์ไฟป่า ประจำวันที่ 3 มีนาคม 2560 ช่วงเวลา 10.19 น. ดาวเทียม Terra ระบบ MODIS ยังไม่พบจุดความร้อน (Hotspot) บริเวณ จ.เชียงใหม่ แต่สถานการณ์ไฟป่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ดาวเทียมระบบ MODIS พบจุดความร้อน (Hotspot) บริเวณ จ.เชียงใหม่ จำนวน 5 จุด

ทางด้าน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ศูนย์อำนวยการสั่งการฯ ระดับอำเภอ บูรณาการชุดปฏิบัติการลาดตระเวน และดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานป่าไม้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสอดส่องดูแล และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงให้เฝ้าระวังอำเภอข้างเคียงด้วย หากพบไฟไหม้ ให้แจ้งวอร์รูมเข้าไปดับโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไฟลุกลาม

ขณะเดียวกัน ให้กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศเสียงตามสาย ขอความร่วมมือชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในบัญชีผู้ที่เข้าไปหาของป่า ให้ช่วยกันรักษาพื้นที่ของตัวเอง หากพบเห็นไฟไหม้ ให้แจ้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และทีมอาสาประจำหมู่บ้านละ 25 คน เข้าไปช่วยกันดับโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่าทุกพื้นที่ ช่วยกันเฝ้าระวัง และดับไฟป่าอย่างหนัก มีหลายคนที่ได้ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บขณะทำงาน การเข้าไปดับไฟป่าบางพื้นที่ต้องเดินเท้าเข้าไป และต้องทำงานทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า จึงอยากวิงวอนให้คนที่จุดไฟเผาป่า จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ได้เห็นใจคนทำงานดับไฟ เพื่อปกป้องไม่ให้คนเชียงใหม่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่า ปกคลุมเหมือนเช่นทุกปี ซึ่งมีผลกระทบทั้งต่อสุขภาพ และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว สิ่งที่ชุดปฏิบัติการดับไฟยังขาดอยู่ตอนนี้ คือ น้ำดื่มที่จะต้องพกติดตัวเมื่อเข้าป่า อาหารแห้ง อุปกรณ์ในการดับไฟ หากจะมีคนเชียงใหม่ที่อยากจะมีส่วนร่วม แสดงน้ำใจ และเป็นกำลังใจให้กับชุดปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ สามารถแจ้งความประสงค์นำสิ่งของมาบริจาคทั้งเงิน และสิ่งของได้ที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ที่ชั้น 1 อาคารศาลากลาง จ.เชียงใหม่ หรือแจ้งมาที่หมายเลข 053-112236 ได้ทุกวัน