เปิดเวทีศึกษาสร้าง ทางเลี่ยงเมืองน่าน

จังหวัดน่าน เปิดเวทีการประชุมปฐมนิเทศโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน ศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ครั้งที่ 1 แก้ปัญหาการจราจรที่แออัดในตัวเมืองน่าน

ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองน่าน นายวรพจน์ ประทีปรัตน์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดเวทีการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนาครั้งที่ 1) การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน โดยมี นายประสพชัย ปรางค์ทอง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงน่านที่ 1, นายกิตกาน อินยัญญะ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม แขวงทางหลวงน่านที่ 1, นายเทิดศักด์ พ่วงจินดา ผู้จัดการโครงการฯ นายปรีดา ทองสุขงาม ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม นายบรรพต เจริญสัตยธรรม วิศวกรงานทาง ร่วมนำเสนอข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมเวที กว่า 150 คน โดยโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน เป็นโครงการที่ช่วย อำนวยความสะดวก รวดเร็ว ในการเดินทาง แก้ปัญหาการจราจรที่แออัดและหนาแน่นในตัวเมืองน่าน การก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองจะเป็นการแก้ปัญหาการจราจรในบริเวณตัวเมืองจังหวัดน่าน ซึ่งมีเขตทางแคบได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยลดปริมาณการจราจร ที่จะผ่านบริเวณตัวเมืองน่าน และเป็นการเสริมโครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางถนนของจังหวัดน่านให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยในการพัฒนาพื้นที่ใหม่และเพิ่มการเข้าถึงของชุมชนใกล้แนวสายทาง นายประสพชัย ปรางค์ทอง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงน่านที่ 1 ได้กล่าว่า อย่างไรก็ตาม แนวเส้นทางโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน อาจตั้งอยู่ใกล้โบราณสถาน แหล่งโบราณคดีแหล่งประวัติศาสตร์หรืออุทยานประวัติศาสตร์ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ในระยะ 2 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการนี้กรมทางหลวง จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วยบริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จํากัด บริษัท เดอะเบสท์คอนซัลท์ติ้ง เอ็นจิเนียร์ จํากัด และบริษัท เอ็นทิค จํากัด มาเพื่อดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม หลังจากการสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน และได้ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในโครงการด้วย พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นประชาชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น