ระทึก! เพลิงไหม้โรงรถ บ้านผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หวิดลุกลามหนัก

เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 30 มี.ค.60 โดยทาง พล.ต.ท.อุทัย พวงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่แฝก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนของประชาชนที่บริเวณบ้านแพะเจดีย์ หมู่ที่ 6 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงรุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจของสถานีนี้ พร้อมทั้งได้แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ช่วยกันเข้าระงับเหตุ เนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนักจนเกรงจะขยายเป็นวงกว้าง และเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง

โดยในเวลาต่อมาเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางไปถึงยังที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากโรงรถซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้าน โดยภายในพบว่ามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ภายในกำลังถูกเพลิงไหม้อย่างหนัก ขณะเดียวกันชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำใส่กองเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก เนื่องจากบริเวณโรงรถที่เกิดเพลิงไหม้นั้นอยู่ติดกับตัวบ้าน ซึ่งเกรงจะลุกลามไปอีก จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานประมาณครึ่งชั่วโมงทางชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด แต่ทรัพย์สินที่อยู่ภายในโรงรถดังกล่าวถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันจากการสอบสวน ทราบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุที่เป็นโรงรถนั้นมี นายทรงพล กองเกิน อายุ 57 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยระหว่างเกิดเหตุได้อยู่ภายในบ้านที่อยู่ติดกันกับโรงรถ ต่อมาได้ยินเสียงไฟประทุและได้กลิ่นควันไฟจึงออกมาตรวจสอบก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้โรงรถอย่างหนัก จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือซึ่งทางเพื่อนบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงได้พากันเข้ามาช่วยเหลือดับไฟแต่ไม่ทันการ เนื่องจากเพลิงได้ลุกลามอย่างหนัก ประกอบกับภายในโรงรถมีวัตถุที่เป็นเชื้อเพลิงจึงทำให้ไม่สามารถควบคุมได้ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้ามาช่วยเหลือไว้ทันที่เพลิงจะลุกลามไปติดบ้าน

อย่างไรก็ตามหลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป สวนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากภายในโรงรถมีสายไฟค่อนข้างเก่า ประกอบกับช่วงนี้มีสภาพอากาศร้อนจัดจึงเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ขณะที่ค่าความเสียหายนั้นเบื้องต้นได้ประเมินไว้ประมาณ 150,000 บาท เนื่องจากมีทรัพย์สินเป็นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น