ยาหอมเชียงใหม่ แก้ปัญหาหมอกควันถูกทาง กำชับอีก 30 วัน ให้เข้มการปฏิบัติ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ควงแขนอธิบดีกรม ปภ. ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่า ยาหอมเชียงใหม่แก้ปัญหาถูกทาง มหาดไทยใช้เป็นโมเดลแก้ไขในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่อุทิศให้กับส่วนรวม กำชับให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นในช่วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 30 วัน จะหมดระยะเวลาห้ามเผา ยืนยันว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่ภาคประชาชน หากทุกคนร่วมใจกันแล้ว จะทำให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าหมดไป

ที่ห้องศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จ.เชียงใหม่ ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางฯ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระ ทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย กระทรวงมหาดไทย เดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมและติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยมี นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่  ร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่

ซึ่งได้มีการถ่ายเทกำลัง แบ่งหน้าที่รับผิดชอบแต่ละอำเภอ เพื่อให้เข้าไปในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพที่สุด รวมถึงปรับกลยุทธ์ให้เป็นไปตามสถานการณ์ ส่งผลให้การเผาน้อยลงจากปีที่แล้ว ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ เกี่ยวกับอาหาร น้ำดื่ม ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น และอุปกรณ์ดับไฟป่า ให้กับอาสาสมัครดับไฟป่า และหน่วยลาดตระเวนภาคประชาชน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรม ปภ. กล่าวว่า จ.เชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างในความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ใช้เป็นโมเดล ถอดบทเรียนมาเป็นแบบอย่าง ในการนำไปปรับใช้ในการแก้ปัญหาระดับประเทศ ทั้งท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด โดยพร้อมที่จะเตรียมการจัดสรรงบประมาณเข้าช่วยเหลือ ต้อง เตรียมการให้เข้าเชิงพื้นที่ ให้ท้องถิ่นซื้อหาอุปกรณ์สนับสนุนที่มีความจำเป็น ในการดับไฟป่า ให้ทาง ผวจ.ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จ.เชียงใหม่ เป็นผู้บริหารจัดการนำแจกจ่ายไปยังอำเภอที่เป็นพื้นที่ ที่เกิดการเผาบ่อยครั้ง

นอกจากการสร้างความรู้ความเข้าใจให้มากที่สุดในการงดเผาแล้ว สิ่งที่จำเป็น คือต้องสร้างอาชีพรองรับให้แก่ประชาชน หากไม่ให้ชาวบ้านเผาแล้ว จะต้องทำอาชีพใดสร้างรายได้ และไม่กระทบกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายจะเป็นอันดับสุดท้ายที่จะใช้ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำอย่างเข้มงวด

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้เจ้าหน้าที่อย่าพึ่งประมาณ แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่ยังเหลืออีก 30 วันที่จะครบระยะเวลา 60 วันห้ามเผาเด็ดขาด โดยให้เข้มข้นในการทำงาน ประกอบกับ จ.เชียง ใหม่ เป็นพื้นที่ที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ หากเกิดภาวะหมอกควันวิกฤตขึ้น จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สังคม และเศรษฐกิจ

ซึ่งในขณะนี้ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก พร้อมชื่นชมและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ที่ช่วยกันสอดส่องดูแล เสียสละ และอุทิศเวลาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้เข็มแข็งมาก ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่ภาคประชาชนอย่างแท้จริง หากประชาชนทุกคนร่วมใจกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแบบจริงจัง มั่นใจว่าปัญหานี้จะหมดไปจาก จ.เชียงใหม่ แน่นอน

โอกาสนี้ อธิบดีกรม ปภ. และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจ.เชียงใหม่ ร่วมกันมอบอุปกรณ์การดับไฟป่า ที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดซื้อให้แก่เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครดับไฟป่า ประชาชน และหน่วยงานที่ออก ลาดตระเวนดับไฟป่าในพื้นที่เสี่ยงของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานและอาสาสมัครที่ออกลาดตระเวนเฝ้าระวังและดับไฟป่า สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และมีประ สิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น