ธนาวุฒิผงาดแชมป์ อาเซียน ส่งท้ายที่เมืองเวียงพิงค์ “ทัวร์ออฟไทยแลนด์”

“เจ้าปาง” ธนาวุฒิ สนิกวาที ผงาดแชมป์อาเซียนส่งท้ายปั่นทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2017 ในขณะที่ เยฟจินี่ นักปั่นคาซัคสถานไม่พลิกยึดแชมป์เวลารวมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่วนทีมไทยได้ตามเป้าป้องกันแชมป์ทีมอาเซียนได้อีกสมัย

การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2017 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทีมชาย เส้นทาง กรุงเทพฯ-ชัยนาท-พิษณุโลก-สุโขทัย-อุตรดิตถ์-ลำปาง- เชียงใหม่ รวมระยะทาง 1,198.45 กม. ซึ่งมีทีมระดับมืออาชีพเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 18 ทีม เป็นทีมไทย 2 ทีมคือ ทีมอาชีพ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ประกอบด้วย ร.ต.ท.ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, ธนาวุฒิ สนิกวาที, ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, นวุติ ลี้พงษ์อยู่, โล ซี ก๊อง และ สราวุฒิ สิริรณชัย กับทีมชาติไทย ประกอบด้วย ยุทธนา มะโน, อดุลย์วิทย์ โพธิ์แสงดา, พีรพงศ์ ลาดเงิน, พีระพล ชาวเชียงขวาง, เสฐฏวุฒิ ยอดสุวรรณ และ ปฐมภพ พลอาจทัน

ในการแข่งขันสเตจที่ 6 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย สตาร์ตจากจังหวัดลำปาง มุ่งหน้าสู่จังหวัดลำพูน และเข้าเส้นชัยที่สวนรุกขชาติ จ.เชียงใหม่ ระยะทาง 134 กม. ซึ่งสเตจนี้ทีมผู้นำเวลารวมคุมเกมไว้ตลอดการแข่งขันไม่ปล่อยให้ใครหนีกลุ่มได้เลย บวกกับเส้นทางที่เป็นทางขึ้นๆ ลงๆ เขา และแคบ นักปั่นจึงความเร็วได้ไม่มากนัก

ในขณะที่ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ที่ทำเวลาทีมนำจ่าฝูงมาตั้งแต่วันที่ 2 ของการแข่งขันแต่เวลารวมบุคคล นวุติ รั้งที่ 2 ตามหลัง กฤษฎา ช่างปัด อดีตนักปั่นทีมชาติไทย สังกัดอินฟินิช ประเทศสิงคโปร์อยู่ 3 วินาที และหวังจะเก็บแชมป์จ้าวเร็วให้ได้สักจุดเพื่อ จึงส่ง นวุติ และธนาวุฒิ ขึ้นมาอยู่หน้ากลุ่มและหาจังหวะหนีออกไป แต่ทีมผู้นำเวลารวม วีโน่ อัสตาน่า ไม่ปล่อยให้ใครหนีออกจากกลุ่มได้เลย

จนกระทั่งเข้าสู่ 20 กม.สุดท้าย ก็มีนักปั่นจากอิหร่าน จีน และไต้หวัน รวมถึงไทยตั้งกลุ่มทำความเร็วจะหนี แต่หนีไม่ออกมา เมื่อเข้าสู่เขตตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังทำถนนส่งผลให้ความเร็วของกลุ่มนั้นทำได้ไม่เร็วนัก บวกกับทีมวีโน่ อัสตาน่าคอยคุมความเร็วไม่ให้กลุ่มแตก จนเข้าสู่ 5 กม.สุดท้าย ความเร็วของกลุ่มเริ่มเพิ่มมากขึ้น จากนั้น “เจ้าโอเชะ” ปฐมภพ พลอาจทัน ขึ้นมาลากธนาวุฒิ เพื่อบูตความเร็วให้เข้าโค้งซ้ายขึ้นมาหน้ากลุ่ม เพื่อเตรียมสปรินต์ แต่ปรากฏว่าธนาวุฒิยกเร็วเกินไปจึงโดนนักปั่นจากออสเตรเลีย ยาเทส เดอโดดอน ปาดแซง เข้าเส้นคว้าแชมป์สเตจสุดท้ายด้วยเวลา 2.55.45 ชม. ส่วนธนาวุฒิเข้ามาเป็นอันดับ 4 ผงาดแชมป์อาเซียนส่งท้ายการแข่งขัน ส่งผลให้ไทยสามารถป้องกันแชมป์ทีมเวลารวมอาเซียนไว้ได้อีกสมัย โดยทำเวลารวมได้ 63.29.52 ชม.

ส่วนแชมป์คว้าถ้วยพระราชทานฯ ไปครองตกเป็นของ เยฟจินี่ กีดิก (วีโน่ อัสตาน่า) เวลารวม 21.09.06 ชม. แชมป์อาเซียนตกเป็นของ กฤษฎา ช่างปัด (อินฟินิช สิงคโปร์) ผู้ทำคะแนนรวมสูงสุด (เสื้อเขียว) อาร์เบอร์ ตูรี่ 70 คะแนน จ้าวภูเขา อีลาส (ยูเคโอ) 26 คะแนน ทีมเวลารวมตกเป็นของ ทีมโซล ไซคลิ่ง ทีมทำเวลารวมได้ 63.28.53 ชม.

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พอใจกับผลงานของนักกีฬาที่ทำได้ตามเป้าในครั้งนี้ แม้ว่าจะพลาดแชมป์อาเซียนบุคคล แต่ตอนนี้ทีมไทยไม่ใช่ไม้ประดับของการแข่งขันอีกต่อไป เพราะฝีเท้าของนักกีฬาไทยสู้กับระดับมืออาชีพได้ เพียงแต่มาพลาดเก็บแชมป์จ้าวความเร็วไป 1 จุดจึงทำให้พลาดแชมป์บุคคลอาเซียน ส่วนกรณีของกฤษฎาที่คว้าแชมป์อาเซียน ทำเวลานำนวุติอยู่ 3 วินาทีตั้งแต่จบสเตจที่ 1 และอีก 5 สเตจที่เหลือ กฤษฎาก็หมกมาในกลุ่มตลอดเพื่อรักษาอันดับของตัวเอง แต่การแข่งซีเกมส์ต้องเล่นกันเป็นทีม จะหมกอย่างเดียวไม่ได้ต้องออกมาช่วยเพื่อนๆ จึงคุยกับทีมสตาฟฟ์โค้ชแล้วว่าคงจะให้กฤษฎามาเล่นซีเกมส์ไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นการเล่นที่เป็นทีมเวิร์กและการช่วยเหลือทีมจากกฤษฎา” พล.อ.เดชา กล่าว

ด้านการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ วีแมน ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2017 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันแรกเส้นทางแข่งขันรอบๆ จังหวัดเชียงใหม่ ประตูท่าแพ-จอมทอง-ดอยสะเก็ด-สะเมิง โดยมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 15 ทีม เป็นทีมไทย 4 ทีม ประกอบด้วย ไทยแลนด์ วีเมน ไซคลิ่ง ทีมนำโดย ร.อ.หญิงจันทร์เพ็ง นนทะสิน ส.ต.หญิงวิไลวรรณ กุลภา ศุภักษร นันตะนะ เพชดารินทร์ สมราช สุธิมา โสภา ทีมชาติไทย ประกอบด้วย ศิริลักษณ์ วาระเพียง อภิญญา เทียงแก้ว ปิยะธิดา ทิศจันทร์ ชนิภรณ์ บัตริยะ กัญญารัตน์ เกตุทองหลาง

ทีมไทยแลนด์ ออลสตาร์ ประกอบด้วย กฤติกา ศิลาพัฒน์ พิรานันท์ มณีรัตนนนท์ ฉัตรเกล้า สมสา วราภรณ์ วายุภักดิ์ และทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ ประกอบด้วย สุภาวดี ศรีมันตะ สาธินี จันธิมา อภิญญา สายสมร และ ภัทรธิญา สุทธิธรรม

สเตจแรก สตาร์ตจากประตูท่าแพ เข้าเส้นชัยที่ว่าการอำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ ระยะทาง 102 กม. ได้รับเกียรติจาก นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดและปล่อยขบวนนักกีฬา

สำหรับเส้นทางแข่งขันสเตจแรก เส้นทางนั้นค่อนข้างเล็กและแคบ ส่งผลให้เกมในช่วงแรกไม่เร็วมากนัก โดยมีทีมไทยขึ้นมาคุมหัวกลุ่มพร้อมกับคาซัคสถานและญี่ปุ่น และพยายามจะลองเล่นเพื่อหนีกลุ่ม แต่กลุ่มใหญ่ก็ตั้งทีมไล่ จนผ่านไป 30 กม. มีสองนักปั่นหนีออกจากกลุ่มได้สำเร็จคือ “เจ้าปุ๋ย” วิไลวรรณ ที่หนีออกมากับนักปั่นเวียดนาม เหวียน ธิ ทัน เพื่อมาชิงชัยแชมป์เจ้าความเร็ว และปรากฏว่า เหวียน ธิ ทัน สปรินต์เก็บชัยเจ้าความเร็วไปครอง จากนั้นสองผู้นำก็โดนผู้กลุ่มใหญ่ไล่ทันได้อีกครั้ง ก่อนที่เวียดนามจะสวนออกไปอีกครั้ง แต่ไปไม่รอดโดยกลุ่มไล่ทัน

จนกระทั่งผ่านไป 50 กม. ขบวนนักปั่นเริ่มเข้าสู่หมู่บ้านที่เป็นแหล่งชุมชนซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวที่โค้งซ้าย-ขวา ตลอดเส้นทาง ส่งผลให้ “เจ้าแพร” เพชดารินทร์ กระชากทำความเร็วหนีกลุ่มเพื่อเข้าโค้ง แต่กลุ่มใหญ่ไม่ปล่อยให้ “น่องเหล็กสาวไทย” หนีกลุ่มได้ เมื่อ “เจ้าแพร” ยกหนี กลุ่มใหญ่ยกตาม จนผ่านหมู่บ้านกลุ่มใหญ่ยังเกาะกันไว้อย่างเหนียวแน่นต้องมาวัดแชมป์กันหน้าเส้น โดยไทยส่ง “เจ้าไก่” ศุภักษร ขึ้นมาหน้ากลุ่มเพื่อหวังสปรินต์แต่ศุภักษรหาไลน์ขึ้นไม่ได้ สปรินต์ เข้ามาเป็นอันดับ 3 โดยแชมป์ตกเป็นของ เหวียน ธิ ทัน ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ และแชมป์ครั้งที่ 28 ประเทศสิงคโปร์ และเอเชีย ทำเวลาได้ 2.41.41 ชม.

หลังจบการแข่งขันสเตจแรก เหวียน ธิ ทัน ผงาดขึ้นนำเวลารวมทำเวลาได้ 2.41.31 ชม. และผู้นำเวลารวมอาเซียน ส่วนศุภักษรรั้งที่ 3 ตามหลังผู้นำเวลารวม 6 วินาที และรั้งที่ 2 เวลารวมอาเซียน ส่วนเวลารวมประเภททีมหลังจบการแข่งขันสเตจที่ 1 ทีมไทยแลนด์ วีเมน ไซคลิ่ง ผงาดขึ้นนำจ่าฝูงทั้งทีมนานาชาติและทีมอาเซียน โดยทำเวลารวมได้ 8.05.03 ชม.

“เจ้าไก่” ศุภักษร เปิดเผย เกมในสเตจนี้เป็นทางคดเคี้ยวและมีขึ้นเขาเล็กน้อย แต่ยอมรับการการสปรินต์สู้กับเวียดนามเป็นเรื่องยากเพราะไม่ใช่ตัวสปรินต์ อีกอย่างต้องเก็บแรงไว้แข่งต่อในสเตจที่ 2 ที่เป็นทางขึ้นเขา และเชื่อว่าเวลาจะขาดก็เริ่มจากสเตจสอง เนื่องจากเป็นทางแคบและขึ้นเขายาว ลงยาว บวกกับโค้งเยอะและลื่นมีโอกาสกลุ่มจะแตกออกหลายกลุ่ม ส่วนคู่แข่งเรื่องการขึ้นเขาเวียดนามมี เหวียน ธิ ทัน คนเดียวที่ขึ้นเขาได้ แต่จากการแข่งขันทัวร์เวียดนามที่ผ่านมา เหวียน ธิ ทัน ยังขึ้นเขาแพ้ไทย ส่วนไทยในศึกครั้งนี้มีนักกีฬาที่ขึ้นได้หลายคน โดยเฉพาะเพชดารินทร์ ขึ้นเขาได้ดี เชื่อว่าหากทีมพาขึ้นเขากันเป็นกลุ่มได้โอกาสที่จะพลิกเอาตำแหน่งผู้นำมาเป็นของไทยก็ไม่น่าจะยาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น