ทายาทนายพลเลาลี ร้องผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กรณีถูกอ้างเรี่ยไร

เมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 21 เม.ย.60 ที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ นางภรณี ชัยศิริ และ น.ส. ฉวีวรรณ ชัยศิริ ทายาทของนายพลลี เหวินฮ้วน ผู้นำกองทัพทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3(ก๊กมินตั๋ง) พร้อมนายทหารที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมกันเข้ายื่นหนังสือถึง ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3 (ก๊กมินตั๋ง) แห่งใหม่ ใกล้กับแห่งเดิมที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านถ้ำงอบ ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม

ทั้งนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการก่อสร้าง พร้อมได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มสมาชิกครอบครัว และทายาทลูกหลานอดีตทหารจีนคณะชาติ เป็นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้าง โดยเปิดบัญชีธนาคารฝากไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาไชยปราการ ชื่อบัญชี “คณะกรรมการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน อดีต ทจช.ทัพ 3” และต่อมาได้มี นายจิงเหลียง แซ่หลู่ ชาวดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นำพระจีนจากประเทศไต้หวันมาพบ อ้างว่าจะบริจาคเงินช่วยก่อสร้างและร่วมดำเนินการในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามต่อมาทางนายจิงเหลียง แซ่หลู่ และพระจีนจากไต้หวัน มีเจตนาแอบแฝงที่จะใช้พื้นที่ของอนุสรณ์สถานแห่งใหม่ สร้างศาลเจ้าจีนและนำป้ายชื่อบรรพบุรุษทหา รเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น รวมทั้งได้มีการไปทำการเรี่ยรายเงินจากทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ทางทายาทลูกหลานอดีตทหารจีนคณะชาติ ที่เป็นคณะกรรมการก่อสร้างไม่พอใจ เนื่องจากเห็นว่าต้องการเข้ามาฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ จึงไม่ยินยอมและไม่ให้เข้าร่วมดำเนินการ

ขณะที่ทางนายจิงเหลียง แซ่หลู่ ยังคงมีการรับบริจาคอยู่อย่างต่อเนื่อง จนได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความพยายามที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินการอยู่ตลอด โดยมีการเข้ายื่นร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ จนในที่สุด นอภ.ไชยปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการจัดประชุม กรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการสร้างอนุสรณ์สถาน และมีข้อสรุปว่าจะไม่ให้คณะกรรมการชุดเดิมดำเนินการต่อไปอีก ซึ่งทางทายาทลูกหลานอดีตทหารจีนคณะชาติรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยการเข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ ทางทายาทลูกหลานอดีตทหารจีนคณะชาติ ต้องการให้ทาง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบหรือมีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบใดๆ จากการก่อสร้างอนุสรณ์สถานนี้ ซึ่งจะเป็นการทำให้เกียรติยศของบรรพบุรุษที่เป็นอดีตทหารจีนคณะชาติ กองทัพที่ 3 ต้องเสื่อมเสีย

ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการรับมือบหนังสือดังกล่าว ทางด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้กล่าวว่า ในเบื้องต้นหลังจากที่ได้รับฟังข้อร้องเรียนดังกล่าว ตนก็จะได้นำข้อมูลและเอกสารต่างๆ ไปมอบให้กับทางสำนักงาน จ.เชียง ใหม่ ในฐานะที่เป้นหัวหน้าดูแลศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ไปศึกษาความเป็นมา และปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด มีความขัดแย้งกันในเรื่องใดบ้าง โดยจะได้มีการรวบรวมข้อมูล ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้จะต้องมีการศึกษาข้อมูลทุกด้านอย่างละเอียด จากนั้นจะได้มีการร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น