ตำรวจบุกกระท่อม รวบ “สาวใหญ่” ทำเนียนซุกยาบ้าไว้ในร่ม แต่ไม่รอดเจอรวบยัดคุก พร้อมขยายผลเครือข่ายเพื่อนร่วมแก๊งได้อีก 1 ราย นำตัวไปตรวจปัสสาวะ ต้องตะลึงเมื่อทราบอายุ แท้จริงแค่ 40 กว่าปี แต่ใบหน้าเหี่ยวเหมือนคุณยายวัย 70 ปี เนื่องจากเสพยามานาน ทางด้านตชด.แม่อาย บุกรวบ ชาวเขาเผ่ามูเซอ พร้อมของกลางยาบ้า 240,000 เม็ด ซุกซ่อนมากับรถ จยย.
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 เม.ย. 60 โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี ยะปาละ ผกก.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ตระกูล พิทาคำ รอง ผกก.สส.ฯ และชุดจับกุมประกอบไปด้วย พ.ต.ต.ดวงเด็ด กันทะคำ สว.สส.ฯ ร.ต.ท.คมสัน เสนากิตต์ ร.ต.ท.ณภัทร แสงชัยชุม ร.ต.ท.ภาคภูมิ มณีจักร์ร่วมกันจับกุม นางนาที แก่แล อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 85/1 ม.13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 103 เม็ดและฝิ่นดิบน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 13.5 กรัมโดยจับกุมที่กระท่อมไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ก่อนการการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันออกสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด ที่บ้านขุนข้อน ม.7 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว ผ่านมาถึงบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านดังกล่าวพบ นางนาที แก่แล ยืนอยู่ที่หน้ากระท่อมแสดงท่าทางมีพิรุธ เดินถือร่มหลบเข้าไปในกระท่อมส่อไปในทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้นบริเวณกระท่อมไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงทำการตรวจค้นร่ม ที่นางนาทีถืออยู่ในมือพบยาบ้า 103 เม็ดและฝิ่นดิบ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 13.5 กรัม จาการสอบสวนเบื้องต้น นางนาที ผู้ต้องหาให้การว่ายาบ้าดังกล่าวซื้อมาจาก ชาวเขาวัยรุ่นเผ่ามูเซอ บริเวณอ่านน้ำภายหมู่บ้านขุนข้อน ม.7 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว
ต่อมาจึงได้ทำการขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่าย สามารถจับกุม นางนาคา แสนหน่อ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 105 ม. 7 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว ที่กระท่อมอีกหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน พบนางนาคา นั่งมั่วสุมอยู่ในกระท่อมแสดงท่าทางมีพิรุธ ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่พบอุปกรณ์การเสพยาบ้า และฝิ่น วางอยู่ที่พื้นกระท่อม นางนาคายอมรับว่า ได้เสพยาบ้า และฝิ่น มาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดที่ รพ.เชียงดาว ผลการตรวจเบื้องต้นพบสารเสพติด แมทแอมเฟตามีน, มอร์ฟิน ในปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้งสองคน จึงได้แจ้งข้อหา ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาวเพื่อดำเนินการคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้งสองมาลงบันทึกการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่มีสีหน้าตกใจเป็นอย่างมากเมื่อทราบอายุที่แท้จริงว่าอายุ 46 และ 48 ปี ซึ่งจากการที่ผู้ต้องหาทั้งสองเสพยาเสพติดมากทำให้ร่างกายซูบผอม ใบหน้าเหี่ยวย่นจนชุดจับกุมเข้าใจผิดว่าจับกุมคุณยายอายุ 60-70 ปี ซึ่งเป็นผลของการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจึงทำให้ใบหน้าแก่เกินวัยอันควรด้วย
ส่วนที่ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ชุดจับกุมประกอบด้วย บก.ตชด.ภาค 3, ศป.ปส.ชน.ที่ 1, ฉก.ม.5, กก.ตชด.33, บก.ควบคุม ทพ.ศปก.ทภ.3, ร้อย ตชด.334, ฝ่ายปกครอง อ.แม่อาย, สภ.แม่อาย, ขกท.กกล.ผาเมือง, นปส.ฝาง กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. ,ชป.ส.ภ.จว.เชียงใหม่, สันติบาลหน่วยฝาง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายจะที คาอู๋ ชาวเขาเผ่ามูเซอ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ที่ 12 บ.นามะอื้น ต.แม่อาย อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวน 240,000 เม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภทยาบ้าไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้บริเวณ เส้นทางสาธารณะ บ.ห้วยป่าซาง–บ.ปู่หมื่น หมู่ที่ 4 ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดย ร้อย ตชด.334 ได้รับแจ้งจากสายลับประสงค์สินบนรางวัลนำจับ ว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด บ้านนามะอื้น หมู่ที่ 12 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มของนายจะที คาอู๋ จะลักลอบลำเลียงยาเสพติด (ยาบ้า) จากบ้านนามะอื้น ไปส่งให้กับลูกค้า (เครือข่าย) กลุ่มผู้ค้าในพื้นที่ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย ซึ่งจะนัดหมายส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณถนนสาธารณะบ้านห้วยป่าซาง–บ้านปู่หมื่น หมู่ที่ 4 ต.แม่สาว อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ พ.ต.ท.นพพร กวาวหนึ่ง ผบ.ร้อยฯ ทราบและร่วมประชุมวางแผน เข้าสกัดกั้นและจับกุมกลุ่มดังกล่าว
ต่อมาชุดจับกุมนำโดย ร.ต.ท.วิวัฒน์ชัย จันทบูรณ์ พร้อมด้วยกำลังพล จำนวน 1 ชป. ได้ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทางสาธารณะ บ้านห้วยป่าซาง–บ้านปู่หมื่น หมู่ที่ 4 ต.แม่สาว อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ จนกระทั่งได้มีนายจะที คาอู๋ ขับขี่รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สี ขาว หมายเลขทะเบียน 1กค 8890 เชียงใหม่ (ทราบภายหลัง) ผ่านมาท่าทางมีพิรุธ ชุดจับกุมได้ส่งสัญญาณแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น โดยก่อนทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับนายจะที คาอู๋ จนเป็นที่พอใจแล้ว จากนั้น ร้อยตำรวจโทวิวัฒน์ชัย จันทบูรณ์ ผู้บังคับหมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 334 ได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้นายจะที คาอู๋ ดูเพื่อขอทำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษเคลือบด้วยไขสีเหลือง ประทับด้วยโลโก้ 999 สีน้ำเงิน จำนวน 24 ก้อน ก้อนละ 5 มัด (มัดละประมาณ 2,000 เม็ด) รวมยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ทั้งหมดจำนวนประมาณ 240,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบฟางสีเขียว ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ อีกชั้นหนึ่ง วางอยู่บริเวณบังลมด้านหน้า จากการสอบถามนายจะทีฯ ให้การสารภาพว่า ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนดังกล่าว เป็นของตนเองจริง โดยซื้อมาจากชาวเขาเผ่ามูเซอ บ.ห้วยฮะ เขตสหภาพเมียนมา ในราคา 3,000,000 บาท โดยจ่ายเงินไปแล้ว 1,500,000 บาท แล้วลักลอบนำมาในเขตประเทศไทย ตามช่องทางคอกวัวใหม่ เพื่อจะนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มเครือข่าย ในพื้นที่ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย ในราคา 5,000,000 บาท จนกระทั่งมาถูกเจ้าที่จับกุมตัวดังกล่าว หลังสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของของกลางนำส่ง พงส.สภ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น