ตร.ลั่นเปรี้ยง! ห้ามค้ากาม ในแม่ฮ่องสอน สั่งกำซับผู้ประกอบการ เด็กสาวลุกฮือร้องศูนย์ฯ

ตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน เรียกประชุมผู้ประกอบการ โรงแรม เกสเฮ้าท์ ที่พัก ร้านอาหาร และสถานบริการ สั่งห้ามไม่ให้มีการค้ากามในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ขณะที่ เจ้าของรีสอร์ทดัง ที่ถูกพาดพิงว่า ผวจ.ไปใช้บริการกับเด็กสาว ยันผู้ว่าราชการไม่เคยมาใช้บริการอย่างเด็ดขาด ทางกลุ่มเด็กสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มแม่เล้าเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ร้องขอความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 เวลา. 10.00. น. พ.ต.ท.สพลพันธ์ พูลน้อย รองผกก.ป.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ พ.ต.ท. วรธันว์ เครือจันทร์ต๊ะ รอง ผกก.หน.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เรียกผู้ประกอบการ ธุรกิจโรงแรม เกสเฮ้าส์ ร้านอาหาร จำนวน 30. ราย ประชุมที่ ห้องประชุมสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน. โดยได้มีการขอความร่วมมือให้ช่วยสอดส่อง ดูแลการลักลอบค้าประเวณี ในพื้นที่ โดยกำชับอย่าให้เกิดขึ้นอีกต่อไปอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้นยังได้มีการกำชับให้สถานประกอบการทุกแห่ง ที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้รีบยื่นเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง เป็นการด่วน ทั้งนี้พบว่าในพื้นที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียง 5แห่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นยังไม่ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องแต่อย่างใด

นางจุไรลักษณ์ กันธิจัย เจ้าของธนโชตรีสอร์ท เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า มีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนคนปัจจุบัน มาใช้บริการร่วมหลับนอนกับเด็กสาวในรีสอร์ทที่ระบุว่า เป็นธนโชติรีสอร์ท ของตนเองนั้น ตนของยืนยันว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้เข้าพัก ก็ไม่มีชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือคนสนิทแต่อย่างใด แม้แต่ทุกวันนี้ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการคนปัจจุบันมารับตำแหน่ง ยังไม่เคยมาใช้บริการของร้านอาหารหรือที่พักในธนโชติรีสอร์ทแต่อย่างใด

สำหรับกรณีเรื่องที่ นายสืบศักดิ์ เอี่ยววิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนคนปัจจุบัน ถูกออกมายืนยันว่า เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการกับเด็กสาวค้าประเวณี ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น แหล่งข่าวในสังกัดกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า ในการสอบสวนเด็กสาว 2 คน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ในการสอบถาม เด็กสาวได้เปิดเผยว่า ว่า ได้เคยไปให้บริการหมู่ ที่ธนโชติรีสอร์ท ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ไปพบกับบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่าเดินทางมาเป็นผวจ.แม่ฮ่องสอน ในสถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นได้ไปร่วมหลับนอนกับแขกหรือไม่ ในการสอบสวน นั้น เด็กไม่ได้ระบุตรงๆ ว่า ไปนอนกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด ซึ่งในวันดังกล่าว ทาง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางล่วงหน้ามาก่อนรับตำแหน่ง 1 วัน และมีการจัดเลี้ยงแขกผู้ที่เดินทางมาส่ง ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ได้มีการจัดงานเลี้ยงที่ ธนโชติรีสอร์ทแต่อย่างใด

ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 26 เมษายน 2560 เวลา 18.00 น. กลุ่มเด็กสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มแม่เล้าใน พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 6 ราย ได้แก่ 1.น้องอึง 2.น้องกิ๊ก 3.น้องม่อม 4.น้องฝน 5. น้องจอย. 6.น้องตั้ก ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.แม่ฮ่องสอน โดยร้องขอความเป็นธรรม กรณีนางเอ นามสมมุติ ที่เข้าร้องเรียนต่อ ปคม. ที่ กทม.ซึ่งมีการพาดพิงและระบุชื่อพาดพิงว่า พวกตนมีอาชีพ เป็นแม่เล้าค้ากามในจังหวัดซึ่งไม่เป็นความจริงและทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง รวมถึงถูกข่มขู่ให้ร้ายในโซเชียลมีเดีย ซึ่งพวกตนมีหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว

โดยเมื่อไปถึงศูนย์ดำรงธรรม พบว่าได้มีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องเรียนด้วยตนเอง โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าว จากสำนักข่าวต่าง ๆ ที่ติดตามไปทำข่าวที่ศูนย์ดำรงธรรม ทำข่าวในขณะสอบปากคำแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ได้นำเด็กสาวกลุ่มดังกล่าว เดินทางออกจากศาลากลางจังหวัด โดยไม่อนุญาตให้บันทึกภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตามล่าสุดในวันนี้ตั้งแต่เที่ยงวันเป็นต้นมา ได้มีกระแสข่าว ออกมาจากกระทรวงมหาดไทย ว่า อาจจะมีการย้ายนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ไปเข้ากรุ เนื่องจาก ระเบียบใหม่ของกระทรวงฯ ได้มีการกำหนดเพิ่ม ให้ผู้ที่ถูกร้องเรียนและถูกตั้งกรรมการสอบสวน จะต้องถูกย้ายออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันมิให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีและพยานในคดีที่เกิดขึ้น

ด้าน ”บิ๊กภาค 5” เตือน ข้าราชการตำรวจให้เป็นบทเรียน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้ออกคำสั่งตำรวจภูธรภาค 5 ที่ 171/2560 แต่ตั้งคณะพนักงานสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน สืบเนื่องมาจากที่มีประชาชนร้องเรียนแก๊งค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการบังคับหญิงสาวค้าประเวณีโดยมีการบังคับให้เสพยา และถ่ายคลิ๊ปวีดีโอ ไว้ข่มขู่ให้ยินยอมค้าประเวณี โดยผู้เสียหายบางคนยินยอมเพราะต้องการใช้เงิน หรือเพราะฐานะครอบครัว และเข้าใจว่าผู้ที่มาซื้อประเวณีเป็นข้าราชการชั้นสูง ผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ จึงไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลเรื่องดังกล่าวเพราะเกรงว่าตนเองจะเดือนร้อนภายหน้า

ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการในกรณีดังกล่าวนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงอาศัยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 14 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนโดยมีพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบช.ภ.5 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบช.ภ.5 เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 เป็นผู้ช่วยหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน และนายตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิอีก 13 คนดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการดำเนินการทุกๆ 15 วัน

ที่ห้องประชุมใหญ่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบช.ภ.5 หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมทีมพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมประชุมสรุปการดำเนินการในคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยมีการแบ่งงานการดำเนินการเป็นขั้นตอน

พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการ รองผบช.ภ.5 กล่าวว่าคดีนี้เบื้องต้นมีเหยื่อ 3 รายจากการสอบปากคำมารดาของหนึ่งในเหยื่อสามราย ให้การอ้างว่าบุตรสาวให้ข้อมูล ว่า ตนเองและพวกถูกนำไปขายบริการให้กับข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงบุคคลทั่วไปหลายครั้ง เฉพาะแค่กลุ่มที่เป็นข้าราชการมีที่จำชื่อได้ประมาณ 3-4 คน ส่วนที่จำชื่อไม่ได้ จำได้ตำแหน่งหน้าที่การงานได้อีก 6-7 คน รวมแล้ว มากกว่า 10 คน แต่ข้อมูลที่ได้ในวันนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลจากแม่ของเหยื่อที่ได้ฟังคำบอกเล่ามาเท่านั้น เมื่อเราตั้งทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมาเราก็จะเดินหน้า ทำการลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาข้อมูล พยาน หลักฐาน ทั้งหมด หาข้อเท็จจริง

คดีนี้ทางตำรวจภูธรภาค 5 เราดำเนินการสาวต่อจากคดีค้ามนุษย์ที่เราได้รับแจ้งความ แต่ส่วนของที่แม่เด็กพาเด็กไปร้องที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์(ปคม.) ทางปคม. ก็ทำการออกหมายจับและจับกุม และเตรียมขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ซึ่งเราก็มีการประสานข้อมูลการทำงานเพียงแต่แยกเป็นคนละคดี คำกล่าวอ้างที่มารดาผู้เสียหายกล่าวไว้ ทั้งเรื่องบิ๊กข้าราชการทั้งจำชื่อได้ จำตำแหน่งได้ ตำรวจที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลอื่นที่ชัดถอดมาทั้งหมด เราก็นำเก็บไว้เป็นข้อมูลก่อนจะสอบสวนปากคำตัวผู้เสียหายทั้งหมดที่เป็นเหยือของแก๊งค้ามนุษย์ แล้วทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อมูลทุกว่า ว่าเหยือมีอีกไหม ผู้เอาเด็กทั้งหมด มีใครบ้าง ผู้ประกอบการธุรกิจค้ามนุษย์ มีใครอีกบ้าง เราจะทำความจริงให้ปรากฏ แล้วค่อยพิจารณาตามฐานความผิดของแต่ละกลุ่มคนไป ซึ่งทั้งหมดที่ถูกกล่าวชัดถอด จะต้องเชิญตัวมาสอบสวนปากคำ
คณะทำงานที่ผบช.ภ.5 ตั้งขึ้นมามีความตั้งใจทำงานในคดีนี้ให้ความกระจ่างแก่สังคม สำหรับกลุ่มข้าราชการ ที่ร่วมกันใช้บริการค้าประเวณี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ ไม่ให้ข้าาชการเกี่ยวข้องส่งเสริมการค้ามนุษย์ ท่านที่เป็นข้าราชการควรมีวุฒิภาวะ ต้องรู้ต้องตระหนักว่าเรื่องพวกนี้ไม่ควรเข้าไปยุ่งหรือส่งเสริมใดๆทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามช่วยเหลือคดีที่นางน้ำเพชร ร้องเรียน และพยายามเอาผิดกับกลุ่มตำรวจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กลับถูกย้ายออกจากพื้นที่แทน รองผบช.ภ.5 กล่าวว่าตรงนี้ไม่ทราบข้อมูล แต่เท่าที่ทราบมีการย้ายตำรวจจำนวน 4 นายออกจากพื้นที่แม่ฮ่องสอนชั่วคราว

พล.ต.ต.ภาณุเดช กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า อย่างไรก็ตามตนอยากจะขอเตือนไปยังข้าราชการ โดยเแฉพาะข้าราชการตำรวจ ขอให้ประพฤติปฎิบัติตัวให้อยู่ในกรอบ โดยเฉพาะกรอบของข้าราชการ ต้องเป็นต้นแบบเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เข้าไปทำผิดเสียเอง จะเห็นได้จากคดีนี้เป็นตัวอย่างเป็นบทเรียนที่ดี ที่ทุกคนจะต้องอยู่ในกรอบอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นคดีนี้ ที่จะต้องถูกดำเนินคดี