(คลิป) เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักอีกครั้ง หลายจุดเกิดน้ำท่วมขัง

https://youtu.be/bL1ws4VGxtY

เชียงใหม่เกิดฝนตกหนักอีกครั้ง หลายจุดเกิดน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัด ด้านเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา คลี่คลายสถานการณ์ พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ขณะที่ทางอุตุฯ ภาคเหนือ ออกแจ้งเตือนฝนตกหนัก 25-28 พ.ค.นี้ ในหลายพื้นที่

ช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนไว้ โดยจากการที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในจุดซ้ำซากหลายจุดของตัวเมือง เช่น ชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ที่ปริมาณฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขังบ้านเรือนของชาวบ้าน และถนนสัญจรในชุมชน แต่ไม่หนักเท่ากับครั้งก่อน

โดยรถ จ.ย.ย.และรถยนต์ ยังคงสามารถสัญจรไปมาได้ ปริมาณระดับน้ำอยู่ประมาณช่วงหน้าแข้ง และได้เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหากฝนทิ้งช่วงประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือประมาณเที่ยงวันนี้ สถานการณ์ก็จะกลับสู่ปกติ โดยทางเจ้าหน้าที่ของทาง ทน.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ต่างก็เร่งช่วยกันแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โดยการช่วยกันเคลียร์ทางระบายน้ำ นำเศษกิ่งไม้ ขยะมูลฝอยที่ลอยมากับน้ำแล้วมาติดท่อระบายน้ำออก เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ดีขึ้น รวมทั้งมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อให้สามารถเร่งระบายน้ำได้ทัน

สำหรับบริเวณชุมชนศรีปิงเมือง และชุมชนกาดก้อม เป็นจุดที่มักเกิดน้ำท่วมขังอยู่บ่อยครั้ง หากมีฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ เมื่อเกิดฝนตกหนัก ปริมาณน้ำที่ไหลสะสมลงท่อระบายน้ำ เอ่อล้นออกจากท่อระบายน้ำลงมายังพื้นผิวการจราจร และไหลลงไปยังชุมชน ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหามาหลายปี แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากฝนตกหนักก็จะมีน้ำท่วมขังทุกครั้ง และส่งผลให้ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดน้ำท่วมขัง

อย่างไรก็ตามจากการที่ฝนตกลงมา และเกิดน้ำท่วมขังหลายจุดนั้น ก็ส่งผลให้การจราจรในหลายจุดเกิดติดขัดขึ้น เนื่องจากในช่วงเช้าประชาชนต้องเดินทางสัญจรบนถนนเพื่อไปทำงาน รวมทั้งส่งบุตรหลานไปโรงเรียน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ก็ได้เร่งกันดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดควมวุ่นวาย และเร่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย พร้อมทั้ง จ.เชียง ใหม่ ก็ได้มีการเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะจุดที่มีน้ำท่วมขังหนักในครั้งก่อน ไม่มีการเตรียมเครื่องมือและกำลังเจ้าหน้าที่ ในการเข้าคลี่คลายสถานการณ์ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ที่ทางด้าน นายเมธี มหายศนันท์ ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค.60 นี้ จะเกิดพายุฝนตกหนัก ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และจะขยายวงกว้างขึ้น พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และ จ.ตาก

โดยในช่วงวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นฉุกเฉิน จากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม พร้อมขอให้แต่ละอำเภอแจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ได้รับทราบด้วย

อย่างไรก็ตาม ทาง จ.เชียงใหม่ ได้มีหนังสือวิทยุสื่อสารด่วนที่สุดถึงนายอำเภอทุกแห่ง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศเตือนประชาชน เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.60

โดยประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งจะมีผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัย อาจมีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้

พร้อมได้มีการกำชับอำเภอทั้ง 25 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ และให้ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัย ท่อระบายน้ำ รวมทั้งทางระบายน้ำในเขตเมือง ป้ายโฆษณา และต้นไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรง หากไม่ปลอดภัยให้แก้ไขโดยเร่งด่วน และหากมีสถานการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ กรณีมีความจำเป็นในการอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ พิจารณาสั่งการอพยพโดยทันที เพื่อความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งขอให้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกันกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่พิจารณากำกับดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยของทางราชการตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น