เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 1 มิ.ย.60 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร รรท.รอง ผกก.สส. ประจำ ศปจร.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการจับกุมตัวนายวินัย แซ่หลี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ จ.28 หมู่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่อ่องสอน นายธนภพ แซ่เติ่ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 5 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมของกลาง บัตรกดเงินอีเล็กทรอนิกส์ ธนาคารต่างๆจำนวน 7 ใบ รถ จ.ย.ย. ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันใช้และมีไว้ใช้เพื่อนำออกใช้ ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายของผู้อื่นหรือประชาชน ฯ”
การจับกุมครั้งนี้ทางชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั้งใน จ.เชียงใหม่และใกล้เคียง ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง บ้างก็อ้างว่าเป็น ป.ป.ส. บ้างก็อ้างว่าเป็นตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร บ้างก็อ้างเป็นตำรวจยศสูง และกล่าวหาประชาชนว่าพัวพันขบวนการค้ายา หากโอนเงินมาก็จะปัดคดีได้ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนมาก หลังการสืบสวนทางเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่า แก๊งดังกล่าวจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินจากที่ต่างๆในประเทศ ไทย
โดยแก๊งดังกล่าว ก็จะตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มทั่วไปใน จ.เชียงใหม่ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนเมื่อกลางดึก แก๊งดังกล่าว ก็ตระเวนออกมากดเงินตามตู้เอทีเอ็ม บริเวณ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงล้อมจับไว้ได้ทั้ง 2 คน จากการสอบสวนทั้งสองให้การรับสารภาพว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย มี นายตี๋ ได้ว่าว่าจ้างพวกตนสองคนให้มาทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยทำมาได้ไม่ถึง 1 เดือน แต่ละวันไม่ต้องทำอะไร แค่คอยออกไปกดเงิน ตามตู้เอทีเอ็ม โดยกดครั้งละ 1-2 หมื่นบาท และกดวันละ 1-2 แสนบาททุกวัน แล้วก็จะได้เงินส่วนแบ่งวันละ 2 %ของยอดที่กดได้ทุกวัน
พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ มีฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน แล้วมีการจ้างคนไทยไปทำงาน และคอยโทรมาหลอกลวงประชาชนชาวไทยทุกวัน และใหเโอนเงินเข้าบัญชีต่างๆที่มีมากกว่า 20 บัญชี ก่อนจะให้พวกกดเงินออกไปกดเงินทุกวัน แล้วมีการโอนเข้าบัญชี นายทุนชาวต่างชาติทุกวัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายที่แก๊งนี้ได้ก่อไว้มากกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งที่แจ้งความไว้ตามภูมิลำเนาแต่ละจังหวัด ตอนนี้เราก็จับกุมคนกดเงินได้ 2 คน แต่ผู้บงการไหวตัวทัน หลบหนีไปก่อนแต่เราพอทราบแล้วว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน และจะได้เร่งขยายผลการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายนี้ต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น