เตือนระวังโรค มือ เท้า ปาก เชียงใหม่พบผู้ป่วยแล้ว 430 ราย

สสจ.เชียงใหม่ เตือนผู้ปกครอง ครู พี่เลี้ยงเด็ก ช่วยกันป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ที่พบมากในช่วงฤดูฝน โดยเชียงใหม่พบผู้ป่วยแล้ว 430 ราย พร้อมขอความร่วมมือศูนย์เด็กเล็กและร.ร.อนุบาล คัดกรองเด็กทุกเช้า หากพบเด็กป่วยให้แยกออกจากเด็กปกติและให้หยุดเรียนทันที

วันที่ 6 มิ.ย. 2560 ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ดร.อิสรีย์ ศิริรัตน์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข (สสจ.) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคมของทุกปีมักพบเด็กป่วยเป็นโรค มือ เท้าปากเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูฝนอากาศชื้น เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี และเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอมเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก ทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคได้ง่าย โดยพบผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 430 ราย อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อำเภอเมือง จำนวน 49 ราย รองลงมาอยู่ที่อำเภอสันป่าตองและสารภี อำเภอละ 29 ราย ซึ่งช่วงอายุที่พบมากที่สุดจะอยู่ในกลุ่มเด็กเล็ก 0-4 ปี ขณะที่ สสจ.เชียงใหม่ ได้เฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก และประสานสถานศึกษา โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมโรคนี้อย่างเข้มงวด


ทั้งนี้ โรคมือเท้าปาก ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค วิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล จึงขอความร่วมมือครู พี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก และโรงเรียนอนุบาล ตรวจคัดกรองเด็กเป็นประจำทุกวันในตอนเช้า ให้เด็กล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ ของใช้ ของเล่น เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกครั้งที่พบว่ามีเด็กป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก หากพบเด็กป่วยให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ แจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน และให้หยุดเรียน พักรักษาอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหาย หากพบว่ามีเด็กป่วยจำนวนมากขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที และพิจารณาปิดห้องเรียนที่มีเด็กป่วยหลายคน หรือปิดโรงเรียนชั่วคราวประมาณ 5-7 วันหากมีเด็กป่วยหลายห้อง หรือหลายชั้นเรียน
ด้าน ร้อยเอก ภูรีวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่พบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อจากการได้รับเชื้อทางปากโดยตรง จากเชื้อไวรัสที่ติดมากับมือ การใช้ช้อน แก้วน้ำร่วมกัน หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากตุ่มพอง แผลในปาก หรืออุจจาระของผู้ป่วย ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย บางรายอาจมีไข้ ร่วมกับตุ่มพองเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก โดยตุ่มพองในปาก จะอักเสบ แดง และแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ มักพบที่เพดานอ่อน ลิ้น กระพุ้งแก้ม ทำให้เด็กไม่ดูดนม ไม่กินอาหารเพราะเจ็บ โดยทั่วไปจะหายเองภายใน 7-10 วัน แต่หากเด็กมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ แขนขาอ่อนแรง กินอาหารหรือนมไม่ได้ ขอให้พาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที
สำหรับข้อแนะนำของผู้ปกครองที่จะป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคมือ เท้า ปาก ได้แก่ ไม่ควรพาเด็กเล็กไปอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำห้องส้วมและหลังเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก หลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำร่วมกัน และใช้ช้อนกลางเมื่อกินอาหารร่วมกับผู้อื่น ในการดูแลรักษาผู้ป่วย แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาชาแก้เจ็บแผลในปาก ผู้ดูแลควรเช็ดตัวให้เด็กเพื่อลดไข้เป็นระยะ ให้นอนพักผ่อนมากๆ รับประทานอาหารอ่อน ดื่มน้ำ นม และน้ำผลไม้เย็นๆ เพื่อช่วยลดอาการเจ็บแผลในปาก ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

ร่วมแสดงความคิดเห็น