ธอส.ทำMOUสินเชื่อที่อยู่อาศัย สานฝันคนอยากมีบ้าน

ธอส. จับมือ 4 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ จัดทำ MOU โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ผนึกพันธมิตรทำให้คนไทยมีบ้าน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 บริษัท จัด ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ( MOU) โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อทำให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงหลายด้าน อาทิ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ อำนวยความสะดวกให้บริการนอกสถานที่ รับการ Pre Approve ก่อนโครงการจะตัดสินใจขายลดค่าใช้จ่ายเรื่องการประเมินราคา และลดระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อ

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยหลังร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ( MOU)โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยระหว่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท กาญจน์กนก พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, บริษัทปาล์ม สปริงส์ เพลช จำกัด, บริษัท สมศรี จำกัด และบริษัท ทิพภิรมย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ รวมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนตามแนวทางประชารัฐ ได้อย่างชัดเจนเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบเพื่อการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง นับเป็นการก้าวสู่แนวทาง “ Get Together We Bring Home for All” เพื่อทำให้คนไทยมรบ้าน ตามพันธกิจของธนาคาร ซึ่งการร่วมมือกับผู้ประกอบการทั้ง 4 บริษัท ในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายโอกาสให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ได้ลงนามร่วมกับ 15 สมาคม/ชมรมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีสมาชิกรวกมันกว่า 200 โครงการ และมีมูลค่าของโครงการรวมกันกว่า 30,000 ล้านบาท

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีกรอบสาระสำคัญคือสมาชิกของสมาคมจะจัดส่งโครงการจัดสรรที่อยู่อาศัยมาเข้าโครงการพิเศษของ ธอส. อาทิ โครงการประเภท Fast Track/ Smart Fast Track- Regional Fast Track และ LTF ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์ลดค่าใช้จ่ายเรื่องกากรประเมินราคา เนื่องจากธนาคารกำหนดราคารับเป็นหลักประกันของที่อยู่อาศัยในโครงการล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อได้เช่นกัน และสมาชิกของสมาคมจะจัดส่งลูกค้าภายใต้โครงการประเภท Fast Track/ Smart Fast Track- Regional Fast Track และ LTF ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงให้แก่ธนาคาร เพื่อพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้น ( Pre Approve) และยื่นกู้จริงไม่น้อยกว่า 70% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมดในแต่ละโครงการ และธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ทำการ Pre Approve ก่อนที่โครงการจะตัดสินใจขายให้แก่ลูกค้า ธนาคารจะจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้แก่ลูกค้าในโครงการจัดสรรที่อยู่อาศัยด้วยเงื่อนไขพิเศษตามที่ธนาคารกำหนดและธนาคารจะอำนวยความสะดวกให้บริการลูกค้านอกสถานที่ตามที่ธนาคารและสมาชิกของสมาคมได้ตกลงกัน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ธอส.และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้จะทำให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( ธอส.) พร้อมที่จะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโครงการทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ ขึ้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อ รวมถึงการบริการนอกสถานที่ เป็นต้น โดยมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยทำให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2560 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 178,224 ล้านบาท และยังถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น