ธ.ก.ส.ลำปางช่วยเหลือ ราคาข้าวเปลือกขยับตัว สูงขึ้นถึงตันละ11,200บ.

ธ.ก.ส. ลำปาง เผยผลการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 หนึ่งในมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกขยับตัวสูงขึ้นถึงตันละ 11,200 บาท

นางจุราพร จันทร์ขาว ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอปริมาณข้าวเปลือก ไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกันในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว โดยชาวนาที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถเก็บรักษาข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนเอง หรือสถาบันเกษตรกร และได้รับแรงจูงใจเพื่อดูแลคุณภาพข้าวเปลือก ตั้งแต่ก่อนขึ้นยุ้งฉางและการเก็บรักษาจนกว่าจะนำออกขาย นางจุราพร จันทร์ขาว ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอปริมาณข้าวเปลือก ไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกันในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว โดยชาวนาที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถเก็บรักษาข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนเอง หรือสถาบันเกษตรกร และได้รับแรงจูงใจเพื่อดูแลคุณภาพข้าวเปลือก ตั้งแต่ก่อนขึ้นยุ้งฉางและการเก็บรักษาจนกว่าจะนำออกขาย

ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ปรากฏว่ามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี จำนวน 262,881 ราย ปริมาณข้าวเปลือก จำนวน 1,429,032 ตัน จ่ายสินเชื่อไปแล้วจำนวน 13,040 ล้านบาท และมีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 104 ราย ปริมาณข้าวเปลือก จำนวน 159,003 ตัน จ่ายสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 1,439 ล้านบาท สำหรับโครงการรวบรวมและแปรรูปข้าวเปลือก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านสถาบันเกษตรกร ฤดูการผลิต 2559/60 ดำเนินการรวบรวมข้าวเปลือกได้จำนวน 1,627,544 ตัน สนับสนุนสินเชื่อ จำนวน 11,436 ล้านบาท

ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของรัฐบาล ในหลายโครงการที่มีการเกื้อหนุนกัน นอกจากช่วยลดความเสี่ยง และช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรแล้ว ยังส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดมีการปรับตัวสูงขึ้นถึงราคาตันละ 9,500 – 11,200 บาท ตามชนิดของข้าว ส่งผลให้เกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉาง หรือไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้รับโอกาสในการขายข้าวในราคาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น