หลวงปู่ทอง สิริมังคโล ร่วมผนึกพลังดันโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองอำเภอจอมทอง

ตามที่ประชาชนชาวอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องให้กรมทางหลวง สร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทอง เพื่อลดความแออัดการจราจร ลดอุบัติเหตุ บรรเทาปัญหารถบรรทุกผ่านใจกลางชุมชนส่งผลกระเทือนต่อองค์พระธาตุเจ้าศรีจอมทอง และเพื่อขยายความเจริญออกไปรอบเมืองนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ทางพระพรหมมงคล วิ. (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 ประธานขับเคลื่อนโครงการศีล 5 ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพระมหาเถระที่ชาวจอมทองเและทั่วประเทศเคารพศรัทธา หลวงปู่ทอง กล่าวว่าได้อนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่แก่คณะของนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และนายวีระยุทธ ปั้นน่วม รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่มากราบถวายรายงานโครงการนี้แล้ว ถือว่าเป็นเหมือน “พระอินทร์” ที่มาช่วยให้ชาวจอมทองได้คลี่คลายความทุกข์อกทุกข์ใจมานานสำหรับความเป็นมาของโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทอง นายวิชัย ลดาลลิตสกุล ตัวแทนชมรมพ่อค้า-ศาลเจ้าจอมทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2560 ตนและคณะประกอบด้วยนายสุปรีชา สุภาอินทร์ ตัวแทนผู้ปกครองส่วนท้องถิ่น นายธนา เบี้ยวบรรจง อดีต ผอ.ราชมงคล วิทยาเขตจอมทอง นายจักรคำ หวันแดง ผอ.โรงเรียนศรีจอมทอง นายอุดม กันต๊ะ อดีตนายกสโมสรโรตารีจอมทอง นายศิริวัฒน์ เรือนคำฟู ประธานองค์กรผู้สูงอายุเทศบาลตำบลจอมทอง นายจรัล เผือกคำ ตัวแทนภาคประชาชน นายวิชิต อึ้งจิตรไพศาล ตัวแทนนักธุรกิจและพ่อค้าอำเภอจอมทอง นายโชคชัย มงคลชัยนายพศิน พฤกษาอารักษ์ นายวิวัฒน์ สุนทราศรัย นายประสงค์ จึงอยู่สุข และชาวจอมทองอีกประมาณ200 คน ได้เชิญนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่มาชี้แจงให้ฟังที่โรงแรมราชพฤกษ์ อ.จอมทอง

หลังจากที่ตัวแทนชาวจอมทองได้ไปร้องขอให้ช่วยประสานและผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จ เมื่อวันที่ 11มิถุนายน 2560 ซึ่งนายณรงค์ขอเวลา 45 วัน จึงมีคำตอบชัดเจนในครั้งนี้นายวิชัย ลดาลลิตสกุล กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวจอมทอง เรียกร้องให้สร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทองมีหลายประการ ที่สำคัญคือ ทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด ที่ผ่านย่านธุรกิจร้านค้า และชุมชนตัวอำเภอจอมทองหนาแน่นมาก และเกิดอุบัติเหตุกับประชาชนบ่อยครั้ง มีทั้งรถบรรทุกขนหินจากแหล่งสัมปทานดอยไก่เขี่ย และท่าทรายออกจากจอมทอง และยังมีรถบรรทุกขยะจากในเมืองผ่านไปแหล่งกำจัดบ้านตาล อ.ฮอดทุกวัน เมื่อชาวจอมทองมีงานประเพณีต่างๆ ต้องปิดถนนจึงเกิดความเดือดร้อนเพราะปกติก็แออัดอยู่แล้ว จากความไม่ปลอดภัยและจอมทองยังเป็นเมืองท่องเที่ยวมีดอยอินทนนท์ และพระบรมธาตุเจ้าศรีจอมทอง มีผู้คนเดินทางมาจำนวนมาก จึงต้องการขยายความเจริญให้มีทางเลี่ยงเมืองโดยเร็ว แต่จากการติดตามโครงการนี้ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่มีอะไรคืบหน้า ชาวจอมทองได้เรียกร้องผู้เกี่ยวข้องมาดูแลตลอดหลายปี ที่สุดจึงเห็นไปขอความช่วยเหลือจากนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ ซึ่งมีผลงานคยผลักดันโครงการสร้างถนนสี่เลนจากหางดงจนถึงฮอด สร้างโรงพยาบาลจอมทองขนาด 300 เตียง และอื่นๆอีกมาก

ส่วน นายสุปรีชา สุภาอินทร์ นายธนา เบี้ยวบรรจง และนายจักรคำ หวันแดง ซึ่งเป็นตัวแทนชาวจอมทองได้กล่าวบนเวทีในวันนั้น ถึงความต้องการทางเลี่ยงเมือง ว่าเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะนักเรียนชุมชนศรีจอมทอง 1,400 กว่าคน เคยเกิดอุบัติเหตุทุกปี จึงขอให้มีทางเลี่ยงเมือง จะเป็นการขีดเส้นทางด้านตะวันตกหรือตะวันออกของตัวอำเภอก็ได้ทั้งสิ้น เพราะทุกคนไม่ได้มีผลประโยชน์ในเรื่องการเวนคืนที่ดิน ที่สำคัญอีกเรื่องคือ ประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือการหาเสียงของฝ่ายใดทั้งสิ้น ทุกคนต้องการความเจริญ และลดปัญหาอุบัติเหตุ ให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุข เป็นเป้าหมายสำคัญอย่างไรก็ตาม นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการว่า เดิมไม่ได้คิดจะได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ แต่ชมรมพ่อค้า และผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนทุกกลุ่มได้รวมตัวกันร้องขอไปยังส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานทางหลวง นายอำเภอ ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณสร้างทางเลี่ยงเมือง มาตั้งแต่ปี 2527 จนมาถึงปี 2560 แต่ไม่มีความคืบหน้า ทำให้กลุ่มชมรมพ่อค้า เกิดความไม่สบายใจและไม่คิดว่าจะสำเร็จจึงประชุมกันล่าสุดและขอร้องตนให้เข้ามาช่วยประสาน-ผลัดดันให้อีกแรงหนึ่ง มีนายสุปรีชา สุภาอินทร์ อดีตกำนันบุญเร็ว บุตรต๊ะ เป็นผู้ประสานมา เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2560 จึงได้ตอบรับว่ายินดีจะเข้าไปศึกษาหาแนวทางในการผลักดันโครงการเพราะเห็นว่าเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน จะแก้ปัญหาการจราจรติดขัด การเกิดอุบัติเหตุลงได้ เพราะตัวเลขจากแขวงการทางระบุว่าแต่ละวันมีรถยนต์ผ่าน11,450 คัน รถบรรทุกวันละ 6,735 คันและถนนห่างจากพระบรมธาตุศรีจอมทองเพียงเล็กน้อย จึงอาจจะกระทบต่อโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อาจทำให้พระธาตุเจดีย์ร้าวได้จึงได้รีบประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่นายอำเภอจอมทอง หมดวการทาง แขวงการทางเชียงใหม่ที่ 1 สำนักทางหลวงเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และกรมทางหลวง โดยได้เข้าพบกับนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่เพื่อขอให้บรรจุโครงการนี้เข้าไว้ในแผนพัฒนาจังหวัด และแขวงการทางก็บรรจุเข้าไว้ในแผน จากนั้นจึงเสนอกรมทางหลวง ซึ่งก็ตอบรับว่า เบื้องต้นปีงบประมาณ 2561นี้ไม่ทัน อาจจะได้รับการพิจารณาในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งต้องดำเนินการเรื่องต่างๆให้เสร็จในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามได้หารือกับสำนักงบประมาณ ก็พอจะมีหนทางในการของบประมาณพิเศษเพื่อมาสำรวจออกแบบก่อนในปีงบประมาณ 2561 นี้ส่วนงบเวนคืนที่ดินและก่อสร้างก็จะขอต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2562 จึงถือเป็นข่าวดีว่าขณะนี้มีความคืบหน้าของการนำเสนอแล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ก็ได้พาคณะนายวีรยุทธ ปั้นน่วม รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมากราบขอบารมีหลวงปู่ทอง สิริมังคโล เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จ หลวงปู่ก็อำนวยพรให้และยังกล่าวว่าคณะที่มาเหมือนเป็นพระอินทร์มาโปรดชาวจอมทอง นายณรงค์ ยังกล่าวว่า ขอให้ชาวจอมทองสามัคคีกัน คิดและหวังในสิ่งเดียวกัน จะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง และต่อต้านในเรื่องนี้ ก็จะทำให้โครงการสำเร็จลงได้นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ กล่าวด้วยว่า เป็นเพราะบารมีของพระบรมธาตุเจ้าศรีจอมทอง และหลวงปู่ทอง สิริมังคโล ทำให้โครงการนี้มองเห็นหนทางจะสำเร็จ หากเป็นไปได้ในเร็ววัน ก็จะมีพิธีลงจอบแรกในการสร้างทางเลี่ยงเมือง มีการสร้างศาลาริมทางและถนนสายใหม่โดยขออนุญาตใช้ชื่อ “พรหมมงคล”ด้วย ซึ่งหลวงปู่ทอง สิริมังคโล ก็ได้อนุโมทนากับคณะว่าขอให้สำเร็จ โดยทางผู้บริหารสำนักงบประมาณก็รับปากกับหลวงปู่พร้อมจะสนับสนุน เพื่อให้โครงการนี้มีความคืบหน้า เนื่องจากชาวจอมทองมีความต้องการให้สร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทองมานานแล้ว มีการเสนอเรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2527 แต่เพิ่งจะมาประชุมและเสนอโครงการจริงจังเมื่อปี 2558 และมาถึงปี 2560 เห็นความเดือดร้อนของประชาชนมากขึ้นอีก แต่เนื่องจากโครงการนี้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากอาจเป็นพันล้านบาทในการเวนคืนที่ดิน จึงจะต้องร่วมกันผลักดันให้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีต่อไป.

ร่วมแสดงความคิดเห็น