ททท.เปิดเกมบุกแดนโรตี ดุูดนักเที่ยวกลุ่มหรูเที่ยวไทย

ททท.ลุยแดนโรตี ยุคนี้ “อินเดีย” เนื้อหอม วาดเป้านักท่องเที่ยวแดนภารตะ มาไทยแตะ 2 ล้านคน ภายใน 2 ปีข้างหน้า “ททท.” วางหมากดึงมหาเศรษฐีพันล้าน-ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เข้ามาจับจ่ายใช้ชีวิตแบบลักซ์ชัวรี่ ขณะที่แอร์ไลน์ไทยล็อคพิกัดเปิดเส้นทางใหม่-เพิ่มเที่ยวบินตรงทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง ดูดกำลังซื้อด้านช้อปปิ้ง หนุนรายได้เข้าประเทศ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวอินเดียเป็นตลาดศักยภาพที่ไทยให้ความสำคัญมาก โดยคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีชาวอินเดียมาเที่ยวไทยแตะ 2 ล้านคน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือกับนาย Amitabh Kaht ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันปฏิรูปประเทศอินเดีย ผู้สร้างสรรค์แคมเปญ “อินเครดิเบิล อินเดีย” เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวอินเดีย
ทั้งนี้ ซีอีโอสถาบันปฏิรูปประเทศอินเดียได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการทำตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ว่า ไทยต้องเชิญชวนดาราบอลลีวูด 
อินเดีย คนรุ่นใหม่ให้มาท่องเที่ยวพักร้อนในไทย พร้อมโปรโมตไทยในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งการจัดงานแต่งงาน (เวดดิ้งเดสติเนชั่น) ให้ได้รับความนิยมจากคู่บ่าวสาวของอินเดียอย่างต่อเนื่อง
“นอกเหนือจากการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์แล้ว การนำเซเลบริตี้ชาวอินเดียมาช่วยโปรโมตคือแนวทางการทำตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียที่ถูกทาง เพราะกลุ่มเซเลบริตี้
เองก็ไม่เชื่อในการโฆษณาเช่นกัน นอกจากนี้ ซีอีโอสถาบันปฏิรูปประเทศอินเดียยังเห็นด้วยที่ไทยรุกโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (แกสโตรโนมี่ทัวริสซึ่ม) และรอลุ้นร้านอาหารไทยที่จะได้มิชลิน สตาร์ในเดือนธันวาคมนี้”
ด้านนายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ 
สำนักงานนิวเดลี อินเดีย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์เจาะตลาดมหาเศรษฐีชาวอินเดีย ซึ่งสถิติล่าสุดของ เวิลด์ เวลท์ รีพอร์ท ระบุว่าในอินเดียมีมหาเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญสหรัฐถึง 95 คน และระดับร้อยล้านเหรียญสหรัฐกว่า 2.64 แสนคน นี่คือกลุ่มตลาดสำคัญที่ ททท.จะรุกโปรโมตให้มาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตแบบลักเซอรี่ที่เมืองไทย ควบคู่กับการทำตลาดมิดเดิลคลาส ซึ่งมีกว่า 400 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 1.33 พันล้านคนของอินเดีย
“ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายที่ชาวอินเดียนิยมมาท่องเที่ยวมากสุดติด 6 อันดับแรก (ดูไบ, สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย และศรีลังกา) ปัจจุบันมีเที่ยวบินในเส้นทางจากไทยสู่อินเดียรวม190 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หรือกว่า 42,609 ที่นั่งต่อสัปดาห์ โดยปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทย 1.19 ล้านคน จากยอดคนอินเดียเดินทางไปทั่วโลกกว่า 
22.30 ล้านคน และคาดว่าในปี 2020 จะมีแนวโน้มไปเที่ยวต่างประเทศสูงถึง 50 ล้านคน” นายอิศรา
กล่าว
สำหรับตลาดที่มีศักยภาพนั้น นายอิศรากล่าวว่ายังเป็นตลาดคู่แต่งงาน รวมถึงการถ่ายทำ
ภาพยนตร์บอลลีวูด กลุ่มผู้หญิงอินเดีย กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้เล่นกอล์ฟ รวมถึงกลุ่มเศรษฐีเพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบหรูหรา (ลักเซอรี่)
นอกจากนี้กลุ่มเดินทางเพื่อประชุมสัมมนา (ไมซ์) ปีที่แล้วมียอดเดินทางเฉพาะตลาดนี้ไปทั่วโลก 1.5 ล้านคน ปัจจุบันไทยมีส่วนแบ่งในกลุ่มนักเดินทางไมซ์อินเดียอยู่ 10%
ขณะที่นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการ 
สำนักงานมุมไบ ททท.กล่าวเสริมว่า ททท.วางแผนเข้าไปเจาะตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียจากเมืองรองมากขึ้น เช่น ชัยปุระ ลัคเนา โคชิ และเมืองอื่นๆซึ่งเริ่มมีเที่ยวบินตรงมายังไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ รายงานข่าวจาก ททท.ระบุเพิ่มเติมว่า วางเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดอินเดียมาไทยในปี 2561 ที่จำนวน 1,325,320 คน เพิ่มขึ้น 7.75% ขณะที่รายได้คาดอยู่ที่ 63,355 ล้านบาท เติบโต 14% 
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริป 47,804 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 5.8%
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า 
ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียให้บริการบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ-อินเดีย รวม 4 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-เชนไน กรุงเทพฯ-บังคาลอร์ กรุงเทพฯ-โกลกาตา และ กรุงเทพฯ-โกชิ โดยมีสัดส่วนผู้โดยสารในทุกเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นชาวอินเดียในสัดส่วนประมาณ 80-85% และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 80% สะท้อนให้เห็นว่าอินเดียเป็นตลาดที่แข็งแกร่งมากและในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 นี้ ไทยแอร์เอเชียวางแผนในการบุกตลาดประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ประกาศไปแล้ว 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-ชัยปุระ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มบินตั้งแต่ 29 กันยายน 2560 และกรุงเทพฯ-ติรุจิรัปปัลลิ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มบินตั้งแต่ 28 กันยายน 2560 เป็นต้นไป 
โดยตั้งเป้าชวนคนอินเดียบินมาเที่ยวและช็อปปิ้งดึงรายได้เข้าประเทศไทย
ด้านนายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ กล่าวว่า อินเดียเป็นหนึ่งในแผนเพิ่มการบินในเส้นทางต่างประเทศ โดยเตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบิน กรุงเทพฯ- ชัยปุระ จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และกรุงเทพฯ- ลัคเนา จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทั้ง 2 เส้นทางนี้จะเริ่มในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จเส้นทางบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-อินเดีย สู่หลายเมืองสำคัญ มาตั้งแต่ปลาย
ปี 2559 ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ ภายใต้แนวคิด WE Always Make You Smile มุ่งสื่อสารให้ชาวอินเดียได้รับรู้ถึงจุดเด่นในฐานะสายการบินที่ให้บริการแบบ Full Service ครบครันทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางบินตรงที่สะดวกสบาย ความคุ้มค่าของราคา
“เราให้ความสำคัญกับตลาดอินเดียอย่างมาก และมีแผนที่จะขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชุดใหม่นี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจ และกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวิวัฒน์กล่าว
นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ กล่าวว่า หนึ่งในแผนการขยายเส้นทางบินใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 2560 มุ่งเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศเป็นหลัก วางเป้าเปิดให้บริการเส้นทางสู่ “อินเดีย” 2 เส้นทาง 
คือ กรุงเทพฯ-โคชิ และ กรุงเทพฯ-มุมไบ ในเดือนตุลาคมนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น