แม่แจ่มจัดระเบียบปลูกข้าวโพดรุกป่า


นายจรัญ อุปนันท์ ประธานสหกรณ์การเกษตรแม่แจ่ม เชียงใหม่กล่าวว่าที่ผ่านๆมาทุกภาคส่วนพยายามจัดระบบการปลูกข้าวโพดในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งด้านราคาและปัญหาอื่นๆในฤดูกาล มีการร่วมมือสำรวจพื้นที่ปลูกโดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพราะหากเกษตรกรจะปลูกปลูกข้าวโพด ต้องมีเอกสาร หลักฐานพื้นที่เพาะปลูกที่ไม่ไปบุกรุกแผ้วถางป่า พื้นที่หวงห้ามนำไปยืนยันต่อบริษัทผู้รับซื้อผลผลิตข้าวโพด

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลผลิตปีที่แล้วนั้นราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศลดลง กก.ละ 4-5 บาท จนกระทั่งหน่วยงานภาครัฐฯต้องออกมตรการช่วยเหลือ กำหนดให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่นำเข้าข้าวสาลีมาใช้ผลิต จะต้องซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรในประเทศ 3 ส่วน เพื่อจะได้รับสิทธินำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน นอกจากนั้นคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)ออกประกาศมาตรการดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีผลบังคับใช้ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ (พ่อค้าคนกลาง) รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคา ต่อเจ้าพนักงาน กกร. จากเดิมที่กำหนดให้เฉพาะผู้ครอบครองที่ครอบครองตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป เช่น ผู้ประกอบการโกดัง และโรงงานอาหารสัตว์ ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคาเท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศ จะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน 2,000 บาท กรณีการไม่แจ้ง เพื่อให้ทันผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูกาล 2560/2561 ที่จะออกมาในเดือน ก.ย.-พ.ย. 2560 ประมาณ 4.5 ล้านตัน

นายอุทัย บุญเทียม เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ฤดูกาลผลิต 59/60 ผลผลิตออกมามากกว่าแสนตัน ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เดือดร้อน มิหนำซ้ำเอกชนรายใหญ่ จะรับซื้อเฉพาะที่มีเอกสารยืนยันแหล่งปลูก ซึ่งในอำเภอแม่แจ่มปลูกข้าวโพดกว่า 120,000 ไร่ คงทราบดีว่าปลูกในเขตป่าอะไร

ทั้งนี้สำนักงานเกษตรอำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่ ยืนยันว่า มีมาตรการจัดการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง เพราะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด คาดว่าจะมมีใบ สทก.(สิทธิทำกิน) ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เป็นพื้นที่ทำกินในเขตป่าสงวนฯ ไม่ถึง 5,000 ไร่ที่เหลือก็เลยเป็นปัญหาในฤดูกาล ประกอบกับราษฎรในอำเภอแม่แจ่ม ส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตร

ร่วมแสดงความคิดเห็น