ลำพูนลงพื้นที่ตรวจสอบ ร้านค้าร่วมบัตรสวัสดิการฯ

คนลำพูนแห่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันแรกคึกคัก สำนักงานพาณิชย์ลำพูน พร้อมด้วย สำนักงานคลังจังหวัดลำพูน ธ.กรุงไทย ลงพื้นที่ติดตามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐงานวันแรก พร้อมแนะประชาชนควรทราบสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับอย่างครบถ้วนก่อนการใช้สิทธิ เผยลำพูนมีร้านค้าติดตั้งเครื่อง EDC แล้ว จำนวน 115 เครื่อง 115 ร้านค้า จากร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 222 ร้าน

โดยนางเฟื่องฟ้า ตุลาธรรมกุล พาณิชย์จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน บูรณาการ ร่วม กับ สำนักงานคลังจังหวัดลำพูน ธนาคารกรุงไทย สาขาลำพูน ได้ลงพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่่่าซาง อำเภอลี้ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ติดตามความพร้อม และสำรวจปัญหาของประชาชน /ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่รองรับการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยของจังหวัดลำพูน ที่เริ่มเปิดใช้งานวันที่ 1 ต.ค. 60 วันแรก ซึ่งจังหวัดลำพูน มีผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจกให้ผู้มีสิทธิตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 60 แล้ว 62 % เป็นจำนวน 65,866 ราย จากทั้งหมด 98,103 ราย

นางเฟื่องฟ้า กล่าวต่อว่า จากการตรวจความพร้อมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ร้านเอ้คอสเมติคส์ อ.บ้านโฮ่ง พบว่าผู้มีสิทธิ์มาใช้บัตรซื้อสินค้ากันอย่างคึกคักในวันแรก ประชาชนฯ ส่วนใหญ่ทราบรายละเอียดการใช้บัตร โดยทราบรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐ สื่อ โทรทัศน์ เว็บไซต์ และทางร้านค้าแนะนำ ซึ่งพบปัญหาผู้ถือบัตรบางส่วนยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้บัตร และปัญหาเครื่องรูดบัตรยังไม่มีการอัพเดทเวิร์ดชั่น และพบเครื่องรูดบัตรถ้าใช้งานหนักจะเกิดปัญหาการใช้งานล่าช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้แนะนำแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ในส่วนจังหวัดลำพูนมีร้านค้าติดตั้งเครื่อง EDC แล้ว จำนวน 115 เครื่อง 115 ร้านค้า จากร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 222 ร้าน

ส่วนสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ มี 3 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อหมู ผักและผลไม้ สินค้าอุปกรณ์การศึกษา เช่น ชุดนักเรียน เครื่องเขียน และสินค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่น ปุ๋ย เป็นต้น ซึ่งผู้ถือบัตรควรทราบสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับอย่างครบถ้วนก่อนการใช้สิทธิ โดยบัตรดังกล่าว ใช้ได้เฉพาะสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่สามารถใช้ซื้อบุหรี่ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ 2. เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในวงเงินที่กำหนด แบ่งเป็นวงเงินค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รายละ 500 บาทต่อเดือน (เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. รายละ 500 บาทต่อเดือน ใช้ในการซื้อบัตรโดยสาร บขส.ได้ ภายในวงเงิน 500 บาทต่อเดือน และวงเงินค่าโดยสารรถไฟรายละ 500 บาทต่อเดือน ( ใช้ในการซื้อบัตรโดยสารรถไฟได้ภายในวงเงิน 500 บาทต่อเดือน) และเมื่อชำระค่าสินค้าและบริการแล้ว วงเงินจะลดลงตามยอดที่ใช้จ่าย และเมื่อถึงรอบวันที่ 1 ของทุกเดือน วงเงินจะถูกปรับเป็นค่าเริ่มต้นของวงเงินแต่ละสวัสดิการเสมอ ซึ่งวงเงินคงเหลือของเดือนที่ผ่านมาจะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป นอกจากนี้ จะไม่สามารถถอนเงินสวัสดิการจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสดได้ พาณิชย์จังหวัดลำพูน กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น