นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วมอบรมขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิ

โครงการพัฒนาระบบ และบริการสุขภาพชนเผ่าพื้นเมือง และกลุ่มชาติพันธุ์ที่ีมีปัญ หาสถานะและสิทธิ มูลนิธิพัฒนาชนกลุ่มน้อยและชาติพันธุ์ (พ.ช.ช.) ร่วมกับคณะนิติ ศาสตร์ และคณะสื่อสารมวลชน มช. สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนัก 9 

จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ การพัฒนาระบบและกลไกจัดบริการสุขภาพ สำหรับผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิ วันที่ 9-10 ต.ค.60 ณ โรงแรมฮอลิเดย์ การ์เด้น เชียงใหม่ โดยนำผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมฝึกอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย และเพื่มพูนความรู้ทักษะในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะอย่างเป็นระบบ โดยนำนักวิชาการ อาจารย์ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ สสจ. ผู้แทนจาก รพ.

โดยเฉพาะในพื้นที่มีทีปัญหาสถานะและสิทธิ อาศัยอยู่หนาแน่นอย่าง อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.เชียงดาว และ อ.เขตเมือง ซึ่งโครงการนี้มุ่งหวังสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนให้เกิดนโยบาย ระดับท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กกลุ่ม G และ กลุ่มคนที่ไม่สามารถระบุสถานะ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีสิทธิในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นอย่างเท่าเทียม และสร้างสุข ภาพที่ดีให้แก่คนไทยทุกคน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2553 รัฐบาลได้มีมติเพื่อการให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขแก่บุคคลที่ีมีปัญหาด้านสถานะและสิทธิ จำนวน 475,409 คน และครม.ได้มีมติเพิ่มบุคคลเข้าสู่ “ก่องทุนให้สิทธิ(คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขสำหรับบุคคลผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิ” และ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2558 จำนวน 208,631 คน แต่มติ ครม.ทั้งสองครั้งนั้นไม่ครอบคลุมบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิที่เป็นเด็กนักเรียนรหัส G

เนื่องจาก ครม. เห็นว่ายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะขาดหลักฐานระบุตัวตนที่ชัดเจนตามที่ระบุไว้ จำนวน 76,540 คน และคนดั้งเดิม(คนจีนโพ้นทะเล) ที่ไม่มีสัญชาติแต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ (ทร.14) จำนวน 38,267 คน ตกหล่นไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขจากกองทุนให้สิทธิ(คืนสิทธิ) จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูลยืนยันความถูกต้อง แล้วเสนอคณะ ครม.พิจารณาต่อไป