คนเด่นชัยปลุกม็อบ ต้านเหมืองแร่ บริษัทเอกชน

ชาวบ้าน 4 หมู่บ้านของ ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ยื่นหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตร การทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชน


เมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 ที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลาง จ.แพร่ นายพัสกร เขื่อนพันธ์ ผญบ.ม.11 ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย พร้อมด้วยประชาชนจากบ้าน ม.3 ม.5 ม.6 และ ม.11 ประมาณ 80 คน เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตรการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินบะซอลต์ เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ในพื้นที่ป่าบ้านปางเคาะม.11 ต.ไทรย้อย ของบริษัทศักดาพรอินดัสตรี้ จำกัด และบริษัทเอส พาวเวอร์ ออยกรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้ยื่นขอประทานบัตรต่อสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แพร่ โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.รับหนังสือและชี้แจงแนวทางให้กับกลุ่มประชาชน

ทั้งนี้แกนนำกลุ่มประชาชนได้ยื่นหนังสือ ใจความว่า พื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นพื้นที่ ที่ประชาชนอนุรักษ์ไว้เป็นป่าต้นน้ำลำธาร และหากมีการก่อสร้างมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งฝุ่น เสียง และแรงสั่นสะเทือน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นในการยื่นขอใบประทานบัตรต่อเจ้าพนักงานคืออุตสาหกรรม จ.แพร่ ทาง จนท.ก็ต้องรับเอกสารที่ยื่นและมีการตรวจสอบพื้นที่ตามเอกสาร เข้าไปรังวัดระบุพื้นที่ว่าอยู่ตรงไหนมีแนวเขตอย่างไร หลังจากนั้นจึงจะมีประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ทราบว่า มีการขอประทานบัตรการทำเหมืองแร่ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ เพื่อให้ประชาชนรับทราบและแสดงความคิดเห็น ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในกระบวน การเริ่มต้นเท่านั้น

ผวจ.กล่าวอีกว่า ยังมีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ทั้งนี้บริษัทที่ยื่นขอต้องดำเนินการทำประชาคมหมู่บ้านในรัศมี 3 กม. ของพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็น นำข้อมูลเสนอยัง อปท.ในพื้นที่ ทำรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอสำนักนโยบายและแผน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจสอบผลกระทบด้านต่างๆ ทำรายงานผลกระทบด้านโบราณคดีส่งกรมศิลปากร และมีการตรวจสอบในเรื่องของป่าไม้ ซึ่งกว่าจะครบถ้วนกระบวนการต้องใช้เวลา และผู้มีอำนาจอนุมัติประทานบัตรได้ก็คือ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดขั้นตอนต่างๆ ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น

โดย ผวจ.ได้สั่งให้นายโสภณ สุรภี หน.ฝ่ายเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.แพร่ ดำเนินการจัดทำประกาศใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล โดยให้นำไปติดประกาศยังหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับ     พ.ร.บ.เหมืองแร่ฉบับใหม่ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น