เชียงใหม่ รณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เน้นย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในแต่ละปีจังหวัดเชียงใหม่ จะมีขยะปริมาณมากกว่า 400-500 ตัน และปีที่ผ่านมามีกว่า 700 ตัน ซึ่งพบว่าขยะที่ลอยมาติดนั้น ส่วนใหญ่จะย่อยสลายยาก ดังนั้นก่อนเข้าเทศกาลขอให้ทุกหน่วยเร่งประชาสัมพันธ์ขอให้ช่วยกันรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายง่ายเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม จะได้ไม่ต้องแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเพราะมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี หากไม่เตรียมการหรือปล่อยเป็นเช่นเดิมทุกปีน้ำปิงที่เป็นสายน้ำสายหลักจะเกิดวิกฤต ส่วนการจัดการขยะที่เกิดขึ้นปีนี้มีการเตรียมการระดมทุกหน่วยงานและทั้งกำลังคน เครื่องจักร เรือ รถบรรทุกเพื่อนำขยะไปคัดแยกทำปุ๋ยตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ หลังเสร็จประเพณี ที่บริเวณด้านหน้าประตูระบายน้ำปิง

ตำบลป่าแดด หากทำช้าน้ำจะเน่าเพราะกระทงขนมปังจะมีกลิ่นเหม็นมาก รวมทั้ง แนะนำว่ากระทงขนมปังไม่จำเป็นใส่สี ควรเป็นกระทงสีธรรมชาติซึ่งดูสวยอยู่แล้ว และไม่ควรตกแต่งกระทงด้วยวัสดุอื่นเช่นโรยกากเพชร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำได้เช่นกัน

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ขอให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ในพื้นที่ที่มีน้ำนิ่งให้ใช้วัสดุใบตอง ในพื้นที่น้ำไหล (มีปลา)

 

อาจให้ใช้กระทงขนมปังที่เป็นอาหารปลาได้ หรือ ใบตองก็เหมาะสำหรับทุกแหล่งน้ำ เนื่องจากจะค่อย ๆ ย่อยสลายทางธรรมชาติ ไม่ทำให้น้ำเสีย ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากโฟมและพลาสติก เพราะใช้เวลาในการย่อยสลายนานมากและเป็นอันตรายกับสัตว์น้ำ รวมถึงกระทงจากขนมปังหากอยู่ในแหล่งน้ำปิด ได้แก่ สระน้ำในวัด หนองน้ำ หรือแม่น้ำลำคลองที่มีความสกปรกเดิมอยู่แล้ว แม้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่หากมีปริมาณมากในแหล่งน้ำก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย เพราะขนมปังมีส่วนประกอบที่เป็นสารอินทรีย์ ก็จะยิ่งทำให้น้ำเสียเร็วขึ้น

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น