ปันน้ำปุ๋ยให้เกษตรในชุมชน หวังลดต้นทุนสร้างรายได้ยั่งยืน


ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกรในชุมชน เพิ่มผลผลิต-ลดต้นทุนค่าปุ๋ยของเกษตรกรรวมกว่า 1.28 ล้านบาทต่อปี เพิ่มรายได้แก่ชาวชุมชนอย่างยั่งยืน

นายสมพร เจิมพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ฟาร์มสุกรของบริษัทที่กระจายอยู่ในทุกภาคของประเทศตลอดจนเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรกับซีพีเอฟ ได้ร่วมกันจัดโครงการปันน้ำปุ๋ยให้ชุมชน เพื่อให้เกษตรกรจำนวน 120 ราย นำไปใช้กับการเพาะปลูกพืชหลากหลายชนิด อาทิ นาข้าว อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง หญ้าเลี้ยงสัตว์ ยูคาลิปตัส ปาล์มน้ำมัน ต้นสัก ยางพารา ผักสวนครัว มะนาว กล้วย สวนไผ่ ฯลฯ ในพื้นที่รวมกว่า 3,800 ไร่ ช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยให้กับเกษตรกรรวมร่วม 1,280,000 บาทต่อปี โดยน้ำที่บริษัทแบ่งปันให้ชุมชนนั้นเป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดในระบบแก๊สชีวภาพ สู่บ่อบำบัดน้ำหลังระบบ ต่อไปสู่บ่อพักน้ำ จนได้น้ำที่สะอาดและได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังมีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับพืชทุกชนิด อาทิ โพแทสเซียม ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนิเซียม และโซเดียม จากผลการตรวจคุณภาพน้ำปุ๋ยในห้องปฏิบัติการ พบว่ามีโพแทสเซียมสูงถึง 297 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร และมีไนโตรเจนถึง 154 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร ทำให้พืชที่ได้รับน้ำปุ๋ยเติบโตเร็ว ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้น

ซีพีเอฟมีนโยบายให้ฟาร์มไม่มีการปล่อยน้ำออกสู่ภายนอก จะใช้รดน้ำต้นไม้ภายในฟาร์ม บางส่วนนำมาผ่านการบำบัดอีกครั้งและฆ่าเชื้อจนสะอาดเพื่อใช้ล้างทำความสะอาดโรงเรือนทดแทนการใช้น้ำดี ช่วยประหยัดน้ำในธรรมชาติ กระทั่งเกิดปัญหาภัยแล้งเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ชาวชุมชนผู้เพาะปลูกพืชไร่พืชสวนที่อยู่ใกล้ๆฟาร์ม สังเกตเห็นความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ที่ปลูกอยู่ทั่วทั้งฟาร์มตามโครงการฟาร์มสีเขียว แม้อยู่ในฤดูแล้ง จึงปรึกษาขอใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งโดยมีการทำหนังสือผ่านอบต. และผู้ใหญ่บ้านว่าต้องการใช้น้ำจากฟาร์มอย่างถูกต้อง

“เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ต้นทุนลด กำไรเพิ่ม และแก้ปัญหาขาดน้ำได้ จึงมีการขอใช้น้ำเรื่อยมาทั้งในฤดูแล้งและสำหรับการเพาะปลูกทั่วไป ด้วยการต่อท่อน้ำตรงจากฟาร์มสู่พื้นที่เพาะปลูก หรือบางส่วนอยู่ไกลออกไปฟาร์มก็จะจัดรถขนน้ำไปส่งให้เกษตรกร ขณะเดียวกัน พนักงานซีพีเอฟที่ทำงานภายในฟาร์มทุกแห่ง ยังนำน้ำปุ๋ยนี้มาใช้กับแปลงผักปลอดสารที่ปลูกภายในฟาร์ม ทำให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี พนักงานได้รับประทานผักคุณภาพดี และมีรายได้เสริมจากการขายผักเข้าโรงครัวของฟาร์ม”

นายสิงห์คำ เคียงปัญญา เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโพด ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ตนเองทำไร่ข้าวโพด 6 ไร่ เมื่อก่อนมีปัญหามากตอนฤดูแล้งที่น้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก จึงทำเรื่องขอใช้น้ำจากฟาร์มสุกรจอมทอง มาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 14 ปี ด้วยการสูบน้ำปุ๋ยไปใช้โดยตรงปริมาณ 12,000 ลูกบาสก์เมตรต่อรอบการปลูก แต่ละปีปลูกได้ 2 รอบ พบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้นจากก่อนการใช้น้ำปุ๋ยได้ข้าวโพด 1,500 ตันต่อรอบการปลูก เพิ่มเป็น 2,500 ตันต่อรอบการปลูก

“น้ำปุ๋ยจากฟาร์มมีประโยชน์ต่อหน้าดิน ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมีจากแต่ก่อนใช้ปุ๋ยไร่ละ 300 กิโลกรัม หลังจากใช้น้ำปุ๋ยก็แทบไม่ต้องใช้ปุ๋ยเลย มากที่สุดก็ใช้เพียง 100 กิโลกรัมต่อไร่ ขอขอบคุณฟาร์มจอมทองที่แบ่งปันน้ำปุ๋ยให้พี่น้องเกษตรกรรอบข้างมาตลอด ช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น