นางพยาบาลรัฐ พร้อมสามี หอบหลักฐานแจ้งความตำรวจ หลังธนาคารชื่อดังและบริษัททวงหนี้ผิดตัว

นางพยาบาลรัฐ พร้อมสามี หอบหลักฐานแจ้งความ กับตำรวจ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังธนาคารชื่อดังและบริษัททวงหนี้ ติดตามทวงเงินกว่า 5 แสน และข่มขู่ให้คืนเงินผิดคน สร้างความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ขณะที่ทางเจ้าตัวกลับต้องมาเสียเวลเดินเรื่องจนสุดท้ายเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แต่ทางธนาคารและบริษัทกลับหายเงียบไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือแสดงความขอโทษเกี่ยวกันข้อผิดพลาดแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 10:00น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางรุ่งอรุณ ฤาชัย อายุ 55 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ แผนกจิตเวช โรงพยาบาลนครพิงค์ พร้อมด้วย ร.ต.สุวัฒน์ ฤาชัย ผอ.ศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ภาค 2 ซึงเป็นสามี ได้เดินทางนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ขจร เรือนคำ พนักงานสอบสวนของสถานี กรณีถูกธนาคารหรือบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้จากธนาคาร โทรศัพท์มาทวงหนี้ และข่มขู่ผิดคน เนื่องจากลูกหนี้มีชื่อเหมือนกับตน แต่มิใช่ญาติหรือเคยรู้จักกันแต่อย่างใด โดยทางบริษัทที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีการตรวจสอบตัวบุคคลให้รอบคอบ สร้างความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่ตนและครอบครัวอย่างมาก และทางบริษัทก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือแสดงความขอโทษเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในครั้งนี้แต่อย่างใด

จากการสอบถามทาง นางรุ่งอรุณ ฤาชัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2558 ได้มีผู้หญิงโทรศัพท์ เข้ามายังเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานของตน (แผนกจิตเวช โรงพยาบาลนครพิงค์) โดยอ้างว่าเป็นพนักงานของธนาคารซิตี้แบงก์ เพื่อติดต่อทวงหนี้บัตรเครดิตตน (นางรุ่งอรุณ ฤาชัย) ประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจและประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยทำบัตรเครดิตของธนาคารซิตี้แบงก์ และไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารซิตี้แบงก์แต่อย่างใด ซึ่งตนก็ยืนยันไปกับผู้ติดต่อเข้ามาว่าไม่ใช่ตน และขอให้ตรวจสอบให้รอบคอบว่าลูกหนี้ของธนาคารนั้นเป็นบุคคลใดกันแน่ ซึ่งหลังจากนั้น พนักงานที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานของธนาคารซิตี้แบงก์ ยังคงติดต่อมายังตนอีก ประมาณ 5 ครั้ง ผ่านเบอร์ของที่ทำงาน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ยืนกรานให้ตนไปติดต่อชำระหนี้ธนาคาร และในช่วงหลังได้มีการใช้น้ำเสียงก้าวร้าว และพูดข่มขู่ว่าหากไม่รีบชำระหนี้ จะฟ้องศาลให้ดำเนินคดี โดยบางครั้งที่พนักงานโทรศัพท์เข้ามายังที่ทำงาน แต่ตนไม่อยู่ในห้องก็จะฝากข้อความไว้กับเพื่อนร่วมงานในแผนกฯผู้ที่รับสายไว้ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกว่าเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกคุกคาม เนื่องจากที่ผ่านมาตนไม่เคยมีหนี้สิน กินอยู่อย่างพอเพียงมาโดยตลอด

หลังจากนั้นตนจึงขอให้ทาง ร.ต.สุวัฒน์ ฤาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ภาค 2 ซึ่งเป็นสามี ที่รับราชการอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา คือเบอร์ 02-835-2744 พบว่าเป็นเบอร์ของ บริษัท UP Collection สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 1 ซอยเรวดี 58 ถนนเรวดี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบริษัทรับทวงหนี้ให้กับธนาคารซิตี้แบงก์ โดยสามีของตนก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่บริษัทดังกล่าว และได้มีการสนทนากับพนักงานหญิงชื่อ เสาวนีย์ ผ่านจังหาร ในบทสนทนานั้น สามีของตนยืนยันว่าตนไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารซิตี้แบงก์ และสอบถามเลขประจำตัวประชาชนของบุคคลที่เป็นหนี้ธนาคารฯ ซึ่งพบว่า เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ของนางรุ่งอรุณ ฤาชัย ผู้ที่เป็นหนี้นั้น ไม่ตรงกับเลขประชาชนของตน จึงเชื่อว่าเป็นคนละคน ที่มีชื่อและนามสกุลเหมือนกันเท่านั้น โดยสามีของตนยังได้แจ้งทางพนักงานดังกล่าว ว่า ได้ติดต่อมาผิดคนแล้ว และหากทางธนาคารซิตี้แบงก์ หรือบริษัท UP Collection ที่รับทวงหนี้นั้น ยังมีข้อสงสัยติดใจใดๆ ก็ให้ส่งพนักงานมาติดต่อนัดพูดคุย แบบเห็นหน้าตา เพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่พบว่าหลังจากนั้นเอง ก็ไม่มีผู้ใดติดต่อเข้ามาอีก ซึ่งตนและสามีจึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวคงเรียบร้อย ยุติลงแล้ว หรือมิฉะนั้นหากบุคคลที่ติดต่อเข้ามาเป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวง ที่ติดต่อเข้ามาพบว่าเหยื่อไม่หลงเชื่อจึงเลิกพยายามยุ่งเกี่ยว ตนและสามีจึงเลิกติดใจในเรื่องดังกล่าว

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ตนเอง ได้รับหนังสือจากสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุข เชียงใหม่ จำกัด ส่งทางไปรษณีย์มาที่บ้านของตน โดยระบุชื่อว่า เรียนนางรุ่งอรุณ หรือ นางบุญญาพร ฤาชัย ซึ่งในจดหมายนั้นมีสาระสำคัญระบุว่า สหกรณ์ฯ ได้รับแจ้งจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งอายัดเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนประจำปี 2560 และทุกๆปีหลังจากนี้ เพื่อจัดส่งให้กับสำนักงานบังคับคดี หลังจากนั้นตนและสามีจึงเดินทางไปติดต่อ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2560 โดยเขียนเอกสารคำร้องคัดค้านยื่นไว้ ผ่านพนักงานชื่อ นางณัฏฐฤทัย สิริไตรรัตนกุล นิติกรชำนาญการ งานอายัด สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะติดต่อทวงถามความคืบหน้ากระทั่งทราบว่า สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งถอนการอายัด ถึงสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขเชียงใหม่ จำกัด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว และยอมรับว่าจำเลยในคดีนี้มีเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ตรงกับตน

นางรุ่งอรุณ ฤาชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าตนจะดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยืนยันความบริสุทธิ์ของตนได้เรียบร้อยแล้ว แต่ตนยังติดใจที่ว่ายังไม่มีการติดต่อจากธนาคารซิตี้แบงก์ หรือบริษัทรับทวงหนี้ ที่จะมาขอโทษ หรือแสดงความรู้สึกผิดหรือรับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้การเดินทางมาแจ้งความในวันนี้ ตนไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อจิตใจความรู้สึก และชื่อเสียงของตนภายในหน่วยงาน อีกทั้งยังทำให้ตนและสามีต้องเสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองไปกับการติดต่อทำเรื่องร้องเรียนข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ตนมาในวันนี้เพื่อต้องการสื่อสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมว่าควรดำเนินการต่างๆ ให้รอบคอบรัดกุมมากกว่านี้ ควรมีมาตรฐานและการตรวจสอบที่ชัดเจน มิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง และความเสียหายเกิดขึ้นได้ และที่ผ่านมาอาจจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียหายมาหลายรายแล้วก็เป็นได้ โดยเฉพาะธนาคารซิตี้แบงก์ และ บริษัท UP Collection ควรมีความรอบคอบและรัดกุมมากกว่านี้ ในการระบุลูกหนี้ให้ถูกต้อง มิใช่ใช้วิธีมักง่าย หรือมั่วในการตรวจสอบและข่มขู่ทวงหนี้ จนถึงขั้นดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งก็จะส่งผลสะท้อนให้ทั้งธนาคารซิตี้แบงก์ และบริษัท UP Collection เสื่อมเสียชื่อเสียงและลดความน่าเชื่อถือลงเองด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ เลขประจำตัวประชาชน บุคคลที่เป็นหนี้ธนาคารซิตี้แบงก์ ในระบบทะเบียนราษฎร์ พบว่า เจ้าของเลขบัตรประจำตัว 3-5707-00861-67-0 ชื่อนางบุญญาพร ฤาชัย เดิมชื่อ รุ่งอรุณ ก่อนจะเปลี่ยนมา เป็นบุญญาพร เมื่อ 24 ม.ค.56 เกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2512 บ้านเลขที่ 455/329 หมู่ที่ 6 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวชัดเจนว่าเป็นคนละบุคคลกับตน สามารถเช็คได้จากระบบทะเบียนราษฎร์ด้วยตนเอง และสามารถพิสูจน์ได้โดยง่ายหากตรวจสอบจากเลขประจำตัวประชาชน แต่หน่ายงานที่เกี่ยวข้องกลับถูกละเลยจนสร้างความเสียหายดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น