เตือนภัยการเกษตร พร้อมวิธีป้องกัน

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปางเตือนภัยการเกษตร พื้นที่ภาคเหนือตอนบน ในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะมอดเจาะผลกาแฟ และหอยทากกัดกินทำลายกล้วยไม้

นายศักดิ์ชัย ถนัดวณิชย์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูหนาวพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจะประสบกับภัยการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ มอดเจาะผลกาแฟอาราบิกา โดยเฉพาะช่วงนี้กาแฟอยู่ระหว่างระยะติดผลพัฒนาผลสุก มอดตัวเต็มวัยจะเข้าทำลายผลกาแฟ ตั้งแต่ขนาดผลกาแฟมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.3 มิลลิเมตรขึ้นไป โดยเพศเมียจะเจาะผลกาแฟบริเวณปลายผล หรือสะดือของผล ซึ่งในผลกาแฟสามารถพบแมลงได้ทุกระยะการเจริญเติบโต (ระยะไข่ หนอน ดักแด้และตัวเต็มวัย) มอดจะอาศัยกัดกินขยายพันธุ์ในผลจนกระทั่งผลกาแฟสุก และยังสามารถอยู่ในผลกาแฟที่แห้งคาอยู่ในต้น ผลกาแฟที่หล่นลงพื้นดิน และมอดจะอยู่ในกาแฟกะลาได้ในระยะหนึ่ง ถ้าเมล็ดกาแฟมีความชื้นเหมาะสม โดยมอดยังคงทำลายเมล็ดกาแฟกะลาระหว่างการตากเมล็ดด้วย สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปางจึงขอแนะนำแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหามอดเจาะผลกาแฟแก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ในกรณีการเก็บเกี่ยวกาแฟ เกษตรกรควรเก็บผลผลิตให้หมดต้น ไม่ให้ติดค้างอยู่บนต้น หรือร่วงหล่นตามพื้นดินใต้ต้น ถ้าพบการระบาดรุนแรง ให้เลือกใช้สารชนิดใดชนิดหนึ่งฉีดพ่น คือ ไตรอะโซฟอส 40% อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคาร์โบซัลแฟน 20% อีซี อัตรา 80 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะนี้พื้นที่ภาคเหนือตอนบนยังพบภัยการเกษตรที่สำคัญอีกชนิด คือ หอย หรือทาก เข้ากัดกินทำลายกล้วยไม้ ทำให้กล้วยไม้ชะงักการเจริญเติบโต และผลผลิตได้รับความเสียหาย ในกรณีพื้นที่ปลูก หากเกษตรกรพบหอย หรือทาก มากกว่า 10 ตัวต่อตารางเมตร แนะนำให้ทำการป้องกันกำจัด โดยพ่นด้วยนิโคลซาไมด์ โอลามีน 83.1% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือใช้เหยื่อพิษสำเร็จรูปเมทัลดีไฮด์ 5% จีบี วางรอบโคนเสาวัสดุปลูก หรือใช้กากชา หว่านที่พื้น อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนในกรณีวัสดุปลูก หากพบหอย หรือทาก น้อยกว่า 5 ตัวต่อตารางเมตร ให้เก็บไปทำลาย ถ้าพบมากกว่า 5 ตัวต่อตารางเมตร ให้ทำการป้องกันกำจัด โดยใช้เหยื่อพิษสำเร็จรูปเมทัลดีไฮด์ 5% จีบี หรือกากชา 10% ซาโปนิน อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ วาง 5 จุด (4 มุมและตรงกลาง) บนวัสดุปลูกก่อนการให้น้ำ