ผช.รมว.กระทรวงเศรษฐกิจฯ กัมพูชา นำคณะศึกษาดูงาน การตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ของ สนง.ป.ป.ส.

วันที่ 1 ก.พ.2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากที่เมื่อวานนี้ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. ได้นำคณะผู้แทนกัมพูชา นำโดย ท่านชน โสเพียบ ผช.รมว. กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง หัวหน้าคณะ พร้อมด้วย ท่านพก แมนนี่ ผช.รมว.กระทรวงยุติธรรม, ท่านเน็ต มุนี อธิบดีกรมราชพัสดุและรายได้ที่ไม่ใช่ภาษีอากร กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง, พล.ต.อ. มัก ชิโต รอง ผบ.ตร.แห่งชาติกัมพูชา และรองเลขาธิการ National Authority for Combating Drugs (NACD), พล.ท. เจีย สาริน รอง ผบ.หน่วยสารวัตรทหารกัมพูชา, ท่านอัน เยือน อัยการและที่ปรึกษาประธาน NACD

นายบุญ บุญณฤทธิ์ รองอธิบดีกรมราชพัสดุและรายได้ที่ไม่ใช่ภาษีอากร กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง, นายเภา โสภณ รองอธิบดีกรมราชพัสดุฯ, นายเพ็ญ วิบูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมงานสอบสวน กระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร และ จนท. รวม 30 คน ศึกษาการดำเนินการขายทอดตลาด ทรัพย์สินคดียาเสพติด ของ สำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาสาระที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนดไว้ในการศึกษาดูงาน เรื่อง การดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ของคณะผู้แทนกัมพูชา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ม.ค. – 2 ก.พ.2561 ณ สำนักงาน ป.ป.ส.

สืบเนื่องจากรัฐบาลกัมพูชา ได้นำมาตรการริบทรัพย์สินคดียาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ของไทย ไปเป็นต้นแบบในการดำเนินการ โดยกัมพูชาได้ประกาศใช้กฎหมายยึดทรัพย์และประกาศที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการยึดทรัพย์และการบริหารจัดการทรัพย์สินขึ้น เมื่อเดือน มิ.ย.2559 แต่บุคลากรที่จะดำเนินงานยังขาดองค์ความรู้ และแนวทางการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นเมื่อเดือน ก.ค.2559 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ส่งผู้แทนไปเป็นวิทยากร และร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง กับการผลิตและการค้ายาเสพติด ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ รวมถึงเมื่อเดือน ม.ค. – มิ.ย.2560 รัฐบาลกัมพูชาประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ครั้งที่ 1 โดยมีผลการดำเนินการในคดียาเสพติด 4,331 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 9,694 ราย ยึดสารเสพติดได้ 119,657 กก. และจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ 13 คดี ทำให้กัมพูชาตระหนักว่าควรมีการใช้มาตรการอื่น ในการลงโทษผู้กระทำความผิดด้านยาเสพติด นอกเหนือการจับกุมผู้ต้องหาและยึดสารเสพติด เช่น การดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สิน

รวมทั้งจากการประชุมทวิภาคีไทย – กัมพูชา เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไทย-กัมพู ชา ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2560 ณ จ.บุรีรัมย์ ไทยจึงยินดีที่จะจัดการศึกษาดูงานการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ให้กับคณะ จนท.กัมพูชา ตามที่กัมพูชาร้องขอ ซึ่งเป็นที่มาของการศึกษาดูงานครั้งนี้ ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญๆ คือ กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน การจัดการกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เทคนิคในการสืบสวนทางการเงิน การตรวจสอบทรัพย์สิน และการติดตาม (ความเชื่อมโยงระหว่างกระบวนการคดียาเสพติดและการสืบสวนเกี่ยวกับการฟอกเงิน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์สิน และกรณีศึกษาและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินจากฝ่ายไทย

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “การที่ประเทศไทย โดย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดการศึกษาดูงานให้แก่คณะผู้บริหารและ จนท.กัมพูชาในครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพการดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ให้แก่คณะผู้บริหารและ จนท.จากประเทศกัมพูชา ให้มีความรู้/ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศของตนได้ รวมถึงเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระหว่างไทย-กัมพูชา

นอกเหนือจากความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติด ตามโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย ที่ดำเนินการร่วมกันกับประเทศสมาชิกรวม 6 ประเทศ การจัดการศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และประเทศ อื่นๆ ในภูมิภาค ช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดได้ต่อไป”