รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ป้อง หน.วิเชียร และ ผอ.กาญจนา ยืนยันให้สบายใจว่าทั้ง 2 คน ทำถูกต้องตามขั้นตอนของกระทรวงฯ

รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ป้อง หน.หน้าวิเชียร และ ผอ.กาญจนา ในคดีจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย พร้อมพวกเข้าป่าล่าสัตว์ ยืนยันให้สบายใจว่าทั้ง 2 คน ทำถูกต้องตามขั้นตอนของกระทรวงฯ ย้ำสังคมไม่ต้องกังขา ขณะที่ทางด้าน อธิบดีกรมอุทยานฯ ยืนยัน ผอ.กาญจนา มีที่ยืนในสังคม ส่วนกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน หลังจากที่ชี้แจงแล้ว มีการตรวจสอบยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ไปตามขั้นตอน ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือรู้จักกับนายเปรมชัย และนายนพดล เป็นการส่วนตัว ส่วนการทำงานนั้น ยันไม่มีการย้ายแน่นอน

วันที่ 10 ก.พ.61 พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกับทางคณะสื่อมวลชนถึงความคืบหน้า กรณีเรื่องราวที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้ จากการที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทยจำกัด(มหาชน) และพวกถูกจับกุมและตรวจยึดของกลาง อาวุธปืน และซากสัตว์ โดยเฉพาะเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก

รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน อย่างชัดเจน โดยส่วนแรกคือเรื่องของผู้กระทำความผิด จนท.มีความสามารถเข้าไปทำการจับกุมดำเนินคดี รวบรวมพยานหลักฐาน ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วทั้งสิ้น 9 ฐานความผิด และได้มีการดำเนินการส่งเรื่องให้ทาง พงส.ในพื้นที่ไปตามกระบวนการยุติธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามคดี ที่มีทางตนเป็นประธาน และทาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นที่ปรึกษา

โดยมีทีมนักกฎหมาย ทีมอัยการเข้ามาร่วม เพื่อติดตามคดีไปจนสิ้นสุดคดีความ และในส่วนที่สอง เป็นเรื่องที่จะมาดูว่าจนท.ในสังกัดนั้น มีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง รวมไปถึงการใช้ดุลยพินิจต่างๆ ที่จะต้องมีการตรวจสอบและควรจะมีการเพิ่มมาตรการอย่างไร ขณะเดียวกันมีคนกระทำความผิด สมควรถูกลงโทษ และส่วนของข้าราชการจะต้องรับผิดเรื่องใดบ้างนั้น สังคมก็ต้องช่วยกันดูอีกทางหนึ่งด้วย และในส่วนของ จนท.ก็ทำงานตามปกติ

รมว.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกันภายหลังจากที่ทราบเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็ได้มีการส่ง จนท.เข้าไปเสริม และประสานกับทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าไปในพื้นที่ทันที โดยจะเห็นได้ว่าหลังการเกิดเหตุครั้งนี้ทาง จนท.สามารถเก็บพยานหลักฐานได้อย่างรวดเร็ว และมีทีมใหญ่ๆ เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเก็บรวบรวมหลักฐานที่มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูประเด็นของข้อกฎหมายต่างๆ ที่ต้องมีทีมที่สนับ สนุนการทำงานของ จนท.ด้วย

ส่วนในเรื่องของการที่จะตรวจสอบ เรื่องของการกระทำผิดก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้นั้น ก็กำลังเร่งทำการตรวจสอบในทุกพื้นที่ ที่จะมีความเสี่ยงที่คาดว่าอาจจะไม่ใช่รายนี้เพียงรายเดียว หรืออาจจะเคยมีการกระทำมาแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่ แม้กระทั่งอาวุธปืนที่มีลักษณะเป็นอาวุธใช้ล่าสัตว์ ที่ได้มีการตรวจค้นเจอจำนวนมาก โดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็กำลังประสานกับทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอขึ้นบัญชีและตรวจสอบว่ามีใครบ้าง ที่ได้จดทะเบียนเป็นปืนลักษณะล่าสัตว์ไว้ เพื่อจะได้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนได้ด้วยว่า นำมาใช้ในพื้นที่ ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางตนก็ได้ทุ่มเทตัวเอง และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยได้เน้นเรื่องของผู้กระทำความผิดเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องของจุดอ่อน หรือจุดบกพร่องของ จนท.นั้น ทางคณะกรรมการประจำที่ดูแลในพื้นที่ก็จะมีการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป และในส่วนของประเด็นเรื่องการตรวจสอบ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก็ได้มีการชี้แจงแล้วว่า เป็นการใช้ดุลยพินิจตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้รับมอบอยู่แล้ว โดยตนยืนยันว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ ได้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ทางด้าน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีนโยบายจัดตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีตนเป็นประธาน ดำเนินงานร่วมกับทาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นที่ปรึกษา และติดตามเรื่องของคดีจนถึงที่สุด โดยในส่วนของประเด็นที่ถามว่า น.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า มีจุดยืนหรือไม่นั้น ทางตนขอเรียนว่า ด้วยความมุ่งมั้นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในขณะนี้ ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากข่าวที่ปรากฏในหลายสื่อที่ตั้งข้อสงสัยว่า นายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หรือ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า จะถูกย้ายหรือไม่นั้น ตนในนามของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่าไม่มีนโย บายที่จะย้ายบุคคลเหล่านี้ โดยจากการทำงานตนเป็นคนคัดสรรคนเข้ามางาน โดย นายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการสั่งย้าย หรือมีการกดดัน โดยจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ร่วมแสดงความคิดเห็น