ตำรวจ ภ.5 พร้อม สสจ.เชียงใหม่ ลุยจับคลินิกทันตกรรมเถื่อน

การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 10 ก.พ.61 ทาง พ.ต.อ.ฉัตรมงคล วศินอมร ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย จนท.ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ. เชียงใหม่ จนท.สสจ.เชียงใหม่ ได้นำกำลัง จนท.พร้อมหมายศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ ค.5/2561 เข้าทำการตรวจค้นภายในร้านดีเทนเนอร์ (Detainer) ตั้งอยู่เลขที่ 5/25 (อาคารธานินทร์พลา ซ่า) ถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้น โดยภายในทราบว่าได้เปิดเป็นร้านรับซ่อมฟันปลอม และลักลอบรับจัดฟันโดยผิดกฎหมาย (ดัดแฟชั่น) ให้แก่วัยรุ่นทั่วไป ที่บริเวณชั้น 3 ในราคา 1,900 บาท

โดยในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ พบนายไตรภพ นันทพรหม อายุ 34 ปี ที่อยู่ 246/96 หมู่ที่ 6 ต.หนองจ๊อม อ.สัน ทราย จ.เชียงใหม่ แสดงตัวเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว และผลการตรวจค้น จนท.ตำรวจ และ จนท.สสจ.พบอุปกรณ์ วัสดุ และเครื่องมือทำฟัน จำนวนมากอยู่ภายในร้าน โดยทางเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นของตัวเอง ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว และทราบอีกว่าได้มีการดำเนินการในลักษณะนี้มาแล้ว ประมาณ 4-5 ปี กระทั่งต่อมาทาง จนท.ตำรวจ และ จนท.สสจ. ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน จึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้

ทั้งนี้ในเบื้องต้นทาง จนท.ได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดี ในข้อหากระทำผิดกฎหมายความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 “ห้ามผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ทำ การประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ  พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 “ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลจะสั่งริบบรรดาสิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วยก็ได้”

ขณะที่ทางด้าน สสจ. ระบุว่าการทำการติดเหล็กดัดฟัน โดยเฉพาะที่เป็นแฟร์ชั่น กับสถานทันตกรรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่ได้เป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่มีความชำนาญนั้น อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายและไม่ปลอดภัย เนื่องจากว่า การกระทำ หรือรักษาในช่องปาก จำเป็นที่จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่เช่นนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือเกิดบาดแผล จนเป็นอันตรายที่ร้ายแรงได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น